บันทึกไว้ว่า ..เมษา 63 สงกรานต์ เปลี่ยนไป !!

13-15 เมษายน 2563 เทศกาลสงกรานต์ที่ต้องถือเป็นหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ต้องบันทึกไว้เลยว่า เป็นครั้งแรก .. (และหวังว่าจะเป็นครั้งเดียว) .. ที่ประเทศไทยไม่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ และวิถีปฏิบัติแห่งเทศกาลแบบที่คุ้นเคยได้เปลี่ยนไป !!

ก็ใครจะไปคิดว่า สงกรานต์ที่ชินตาตั้งแต่วัยเด็ก มาถึงปี 2563 ต้องเปลี่ยนไป ไม่เหมือนที่เคยเป็น .. อย่างแรกเลยคือ 13-15 เมษายน 63 ไม่เป็นวันหยุดสงกรานต์ .. จากเดิมช่วงต้นปียังเถียงและคาดเดาว่ารัฐบาลจะประกาศให้หยุดยาว 9 วัน แต่นอกจากไม่ใช่และให้เป็นไปตามปฏิทินแล้ว พอเจอสถานการณ์โควิด-19 เพื่อไม่ให้การระบาดซึ่งไปกับการเดินทางของผู้คน กลายเป็นยกเลิกวันหยุดสงกรานต์ไปซะเลย

จากสงกรานต์ที่แต่ละปีเป็นวันหยุดยาวไม่ต่ำกว่า 3 วัน เพราะครอบเอาวันครอบครัวและวันผู้สูงอายุ วันสำคัญแห่งโอกาสของผู้คนที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ จะได้เดินทางกลับภูมิลำเนา กลับไปเยี่ยมบ้าน เยี่ยมครอบครัว จนถนนหนทางมุ่งสู่ต่างจังหวัดแน่นขนัดไปด้วยรถรา แต่ปีนี้ไม่เป็นแบบนั้น .. แม้แต่ถนนมิตรภาพทเส้นทางหลักสู่ภาคอีสาน ที่คึกคัก หนาแน่นไปด้วยรถราในยามปกติ ยิ่งช่วงสงกรานต์ไม่ต้องพูดถึงแน่นกันตั้งแต่ออกจากกรุงเทพมหานคร เลี้ยวขวาสระบุรี รถออกสู่อีสานไม่ต่ำกว่าวันละ 2 แสนคัน แต่ปีนี้โล่งตลอดสาย ถึงขนาดเขาว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 62 ปี นับตั้งแต่ถนนเส้นนี้เปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2501 มิตรภาพไม่เคยโล่งแบบนี้ !!!

“สงกรานต์” เทศกาลสงครามแห่งน้ำ Water Fastival ที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่ 1 ปี จะมีสัก1 ครั้ง เทศกาลที่กลายเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกแห่กันมาประเทศไทยในห้วงเวลานี้ เพื่อร่วมสนุกสนานกับการสาดน้ำ เล่นน้ำ ที่ถนนเส้นใดเส้นหนึ่ง ที่ปิดให้ผู้คนมารวมตัวกัน สาดน้ำ ยิงปืนฉีดน้ำใส่กันตั้งแต่หัวถนน ยันท้ายถนนตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน แบบที่ไม่มีใครโกรธใคร .. แต่ปีนี้เราไม่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้เป็นครั้งแรก เพราะทั้งถนนสีลม ถนนข้าวสาร และถนนสารพัดข้าว ทั่วฟ้าเมืองไทย งดจัดเล่นน้ำสงกรานต์ ลี้ภัยให้เจ้าโรคระบาดอุบัติใหม่ โควิด-19

“สงกรานต์” วันขึ้นปีใหม่ไทย ที่เคยเป็นโอกาสให้ลูกหลาน ได้แสดงความรัก ความกตัญญู รดน้ำดำหัว ขอพรผู้เฒ่าผู้แก่ ปีนี้กลับทำได้เพียงยกหูโทรศัพท์ วิดีโอคอล ส่งการ์ดออนไลน์ ไปบอกรักผ่านทางช่องทางโซเชียล .. ครอบครัวที่โชคดีหน่อยที่อยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้ว ก็ใช่ว่าจะรดน้ำขอพรกันได้ง่าย ๆ เพราะยังก็ยังต้องสวมหน้ากาก บอกรักขอพรกันอยู่ห่าง ๆ ครอบครัวไหนอยากคง Concept สงกรานต์ รดน้ำขอพร ก็ต้องคิดรูปแบบวิธีรดน้ำแบบมีระยะห่าง เราก็เลยได้เห็น .. กระบวยผูกไม้ก็มา ส่งน้ำผ่านรางไม้ไผ่ บ้างส่งผ่านท่อพีวีซี ลงฝ่ามือปู่ย่า ตายาย ก็มี .. ยื่นมือรดน้ำ รับน้ำ กันสุดแขนให้ห่างอย่างน้อยเมตรครึ่งก็ได้เห็น !!

เห็นแล้วก็อมยิ้มกันไป สะท้อนว่าคนไทยสนุก และมีอารมณ์ขันได้กับทุกสถานการณ์บางคนไม่อยากให้สงกรานต์ปีนี้ถูกลืม บิ๊วตัวเองด้วยเสื้อลายดอกกันไป ..

จะว่าปีนี้ไม่มีวันสงกรานต์ก็ไม่ถูกนัก ก็แค่สถานการณ์โควิด-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบสงกรานต์ปีนี้ให้ต่างไปจากที่เคยเป็นเท่านั้น แต่ไม่ได้เปลี่ยนสาระสำคัญของวันสงกรานต์ วิถีปีใหม่แบบไทย ที่ยังคงเป็นประเพณีแห่งการส่งความสุข ส่งความรักความกตัญญู และความสนุกสนานในอีกมุมที่เรียบง่ายขึ้น ปีหน้า ฟ้าใหม่ เมื่อโควิด-19 คลี่คลาย หรือจะให้ดี หมดไปจากประเทศไทย หายไปจากโลกได้ยิ่งดี .. ค่อยกลับมาสาดน้ำ กอดกันให้หนำใจ ในสงกรานต์ถัดไปก็แล้วกัน !!

เรื่องโดย “เป๋าเป้”