ปทส.บุกยึดรีสอร์ทรุกป่าสงวน 13 หลัง เร่งดำเนินคดีผู้ครอบครอง

ตำรวจ ปทส.สนธิกำลังหลายหน่วยบุกยึดรีสอร์ทในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 13 หลัง พร้อมเร่งหาตัวผู้ครอบครองมาดำเนินคดี

กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.33 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่วาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่วาง ได้ร่วมกันทำการตรวจยึดพื้นที่ถูกบุกรุก พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขานและป่าแม่วาง จำนวน 1 แปลง เนื้อที่รวม 7 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา และสิ่งปลูกสร้างถาวรที่พบอีก 13 หลัง ดำเนินการจับกุมในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484, ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507, ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497, พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547

การจับกุมและการตรวจยึดครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขานและป่าแม่วาง ท้องที่บ้านแม่สะป๊อก หมู่ที่ 5 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีกลุ่มบุคคลเข้าไปบุกรุกยึดถือครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แล้วทำการก่อสร้างอาคารที่พักเปิดเป็นสถานบริการนักท่องเที่ยว ผู้ดินทาง ให้เช่าลานกางเต็นท์/ที่พัก เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนโดยผิดกฎหมาย

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบตามที่ได้รับการร้องเรียน ก็พบว่าพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่บนเนินเขาสูงชัน มีการครอบครองทำประโยชน์โดยการปรับพื้นที่ปลูกสร้างอาคารที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่มีการล้อมรั้วรอบพื้นที่ และไม่มีประตูสำหรับเข้า-ออก ขณะที่เดินทางไปถึงพื้นที่เกิดเหตุไม่พบบุคคลผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ที่ครอบครองสถานที่ดังกล่าว พบนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนหนึ่งคนพักอาศัยอยู่ภายในบริเวณบ้านพักหลังหนึ่งซึ่งปลูกสร้างเป็นห้องพักเช่าอาศัยของโรงแรม รีสอร์ทในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้สอบถามนักท่องเที่ยวซึ่งพักอาศัยคนดังกล่าวทราบว่าเป็นบุคคลสัญชาติจีน ได้เดินทางมาเข้าพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักดังกล่าว โดยการติดต่อซื้อบริการที่พักผ่านทางช่องทางเฟสบุ๊ค และทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโดยรอบไม่พบผู้อื่น รวมถึงผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองและคนงาน จึงเชื่อว่าน่าจะหลบหนีไปแล้ว เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่บนภูเขาสูงสามารถมองเห็นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ขณะขับขี่ขึ้นมายังสถานที่เกิดเหตุได้

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับนายอุดร ฟุงละ กำนันตำบลแม่วิน และนายธวัชชัย สุติมูล ผู้ใหญ่บ้้านแม่สะป๊อก หมู่ที่ 5 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ให้มาเป็นสักขีพยานในการตรวจสอบ เมื่อบุคคลทั้งสองและคณะเดินทางมาถึง ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งจุดประสงค์เพื่อขอตรวจสอบพื้นที่ในเบื้องต้น และได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าจะทำการตรวจสอบเฉพาะบริเวณภายนอกอาคารสิ่งปลูกสร้างและบริเวณพื้นที่โดยรอบเท่านั้น จากนั้นได้ตรวจสอบและบันทึกข้อมูลอย่างละเอียด ก็พบสระน้ำขนาดใหญ่ฉาบด้วยปูนซีเมนต์ อยู่ด้านทิศตะวันออกเป็นลานหญ้ากว้างใช้สำหรับเป็นสถานที่ลานกางเต็นท์ และมีการต่อระบบน้ำประปาเพื่อใช้ภายในอาคารรวมถึงบริเวณโดยรอบสถานที่ บริเวณเสาไฟฟ้าด้านหน้าสถานที่ดังกล่าวพบมิเตอร์ไฟฟ้า และมีชื่อเขียนด้วยปากกาเมจิกสีดำติดไว้ระบุชื่อ นายไพศาล ยอดใจ และสายไฟฟ้าได้โยงไปยังบริเวณอาคาร/ที่พักที่เป็นสิ่งปลูกสร้างแต่ละหลังรวมถึงเสาไฟฟ้าส่องสว่างแต่ละต้น และผลการตรวจสอบไม่พบหลักหมุด หลักเขต หรือหลักฐานใดๆ ที่จะบ่งชี้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีการครอบครองโดยถูกต้องตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกข้อมูลและตรวจยึดทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมรวบรวมเอกสารพยานหลักฐาน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามตัวเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดเผยว่า พื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวเป็นป่าค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เป็นที่ต้องการของนายทุนซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีนายทุนว่าจ้างให้ชาวบ้านในพื้นที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขานและป่าแม่วาง ก่อนจะนำไปออกเอกสารสิทธิ์ เพื่อนำมาขายต่อให้นายทุนชาวต่างชาติเข้าครอบครองถาวร โดยมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานอำนวยความสะดวกให้