คปภ. เพิ่มภูมิคุ้มกันผู้ประกอบธุรกิจ-มัคคุเทศก์-นักท่องเที่ยว จ.แม่ฮ่องสอน

คปภ. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ “ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และนักท่องเที่ยว” จังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วยระบบประกันภัย

สำนักงาน คปภ. บูรณาการการทำงานกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่จัดโครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ประกันภัย ในหัวข้อ “เปิดกลยุทธ์สร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยว ด้วยการประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์”

นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (รองเลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า การให้ความรู้และประชาสัมพันธ์การประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อนำเอาระบบประกันภัยเข้ามาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของภาคธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ตลอดจนเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อภาคธุรกิจนำเที่ยวมากยิ่งขึ้น ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงได้จัดโครงการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยเชิงรุกสู่สาธารณชนทั่วประเทศ “1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์” โดยมอบหมายให้สำนักงาน คปภ. ภาค 1 – 9 ขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว และในครั้งนี้เป็นการดำเนินโครงการของสำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) นำโดยนางกาญจนา ศรีคราม ผู้อำนวยการภาค อาวุโส สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ รวมถึงประกันภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 รองเลขาธิการ คปภ. ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการ คปภ. เป็นประธานเปิดโครงการ “เปิดกลยุทธ์สร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยว ด้วยการประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์” ณ โรงแรมปายวิทยาคาร อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยได้รับเกียรติจาก นายภูรีภัทร พิพัฒน์พงศธร หัวหน้ากลุ่มงานทะเบียนและบัตร ตัวแทนจากอำเภอปาย กล่าวต้อนรับและเยี่ยมชมบูธนิทรรศการด้านประกันภัย ซึ่งจัดโดยสำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) ร่วมกับสำนักงาน คปภ. จังหวัดแม่ฮ่องสอน และภาคธุรกิจประกันภัย

รองเลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนหนึ่งว่า สำนักงาน คปภ. ได้เล็งเห็นความสำคัญด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจัง ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ การจัดงานในวันนี้ได้เลือกจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติจำนวนมาก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้แนวโน้มการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือที่ดีระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจนำเที่ยว ภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ตลอดจนประชาชนทั่วไป มีส่วนช่วยให้การจัดงานในครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จ ก่อให้เกิดองค์ความรู้ และขยายผลสู่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างๆ ได้เห็นประโยชน์ และความสำคัญของการทำประกันภัย อันจะนำไปสู่การบริหารความเสี่ยงด้วยการประกันภัย จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุจากการท่องเที่ยวได้รับความคุ้มครองเยียวยา

ทั้งนี้ จากสถิติในปี 2565 พบว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีนักท่องเที่ยวจำนวน 1,057,119 คน ส่งผลให้มีรายได้จากการท่องเที่ยว มากกว่า 4,210 ล้านบาท และมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย ซึ่งในแต่ละกิจกรรม อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียนประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยให้กับประชาชนทุกภาคส่วน รวมถึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวปฏิบัติตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ตามมาตรา 34 ที่ระบุให้ผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยวต้องจัดให้มีการประกันอุบัติเหตุให้แก่นักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและ มัคคุเทศก์ ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน 2561 กล่าวคือ กฎหมายบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทุกรายต้องจัดให้มีประกันภัยสำหรับอุบัติเหตุให้แก่ นักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว โดยมีเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ ไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท ต่อคน และกรณีบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท ต่อคน ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวไม่จัดให้มีประกันตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท

“การจัดโครงการในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. มีความคาดหวังว่าทุกภาคส่วนของอุตาสาหกรรมการท่องเที่ยว จะได้ใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซักถาม ข้อข้องใจต่างๆ รับฟัง เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลนักท่องเที่ยวได้อย่างดี ตระหนักและเห็นถึงประโยชน์ของการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม อันจะส่งผลให้ผู้ประสบภัยจากการท่องเที่ยวได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยอย่างเป็นระบบและ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวโดยรวมของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและประเทศไทยอีกด้วย”
รองเลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย