“5 มีนา วันยืนหยัดสำนึกคนข่าวมืออาชีพ” โดยสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ประกาศเจตนารมณ์ “5 มีนา วันยืนหยัดสำนึกคนข่าวมืออาชีพ” เนื่องในวันนักข่าว 5 มีนาคม 66

เพจเฟซบุ๊กสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ภายใต้การนำของนายอิทธิพันธ์ บัวทอง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้เผยแพร่ประกาศเจตนารมณ์เนื่องในวันนักข่าว 5 มีนาคม 2566 เพื่อแสดงท่าทีและจุดยืนของสมาคมต่อวันนักข่าวดังนี้

 5 มีนา..วันยืนหยัดสำนึกคนข่าวมืออาชีพ
ทุกครั้งที่วันที่ 5 มีนาคมเวียนมาถึง คือทุกครั้งที่สามัญสำนึกคนข่าวจะรำลึกถึงจิตวิญญาณอันพึงมี พึงยึดมั่น ถือมั่นในการคิดดี-ทำดี เพื่อประโยชน์สาธารณะ

คนข่าวถือปฏิบัติเยี่ยงนี้ต่อเนื่องกันมายาวนาน 68 ปี นับจากวันที่ 5 มีนาคม พุทธศักราช 2498 เป็นต้นมา ตราบกระทั่งทุกวันนี้

วันนี้(5 มีนาคม) เมื่อ 68 ปีที่แล้ว เป็นวันที่คุณโชติ มณีน้อย ในฐานะปูชนียชนคนข่าวได้ร่วมกันกับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนจากหนังสือพิมพ์ภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ รวม 16 ฉบับ ได้เห็นพ้องกันที่จะสถาปนาวันที่ 5 มีนาคม เป็นวันนักข่าว

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นองค์กรวิชาชีพสื่อด้านด้านวิทยุโทรทัศน์ แม้จะถูกสถาปนาขึ้นมาภายหลังตามกระแสการเติบโตของสื่อวิทยุและโทรทัศน์ในเดือนสิงหาคม 2544 แต่ก็เป็นหน่อเนื้อคนข่าวที่ยึดถือให้วันที่ 5 มีนาคม เป็นวันนักข่าวเฉกเช่นเดียวกับองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งหลาย พันธกิจแรกเริ่มของสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย มุ่งทำหน้าที่ติดตามสอดส่องกระบวนการปฏิรูปการจัดสรรคลื่นความถี่ ตามกฏหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส ควบคู่กับการสื่อสาระความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์ภายใต้บริบทใหม่ ที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.)

ในภายหลังการเติบโตของสื่อออนไลน์การทำหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพสิ่อมวลชนด้านวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ภายใต้บริบทใหม่ ถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากประชาชน และจาก กสทช. ที่คาดหวังการทำหน้าที่โดยยึดหลักจริยธรรมวิชาชีพท่ามกลางการแข่งขันอย่างรุนแรงในการสร้างความนิยม รายได้ และความน่าเชื่อถือไปพร้อมกัน

แรงกดดันต่อคนข่าวที่ตัองปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อ แรงกดดันในการสร้างความนิยมเพื่อสร้างรายได้หล่อเลี้ยงองค์กรจากผู้บริหารที่เป็นเจ้าของเงินทุน ตลอดจนถึงการแบกรับความคาดหวังของสังคม ส่งผลต่อแรงกดดันในวิชาชีพอย่างยิ่งยวด

แต่กระนั้นก็ด้วยจิตวิญญาณของความมุ่งมั่นของคนข่าวนับแต่วันเข้ามาสู่วิชาชีพที่ยึดมั่นที่การทำหน้าที่เป็นกระจกส่องปรากฏการณ์ของสังคมอย่างถูกต้องเที่ยงตรง และเป็นตะเกียงส่องทางที่จะสร้างสังคมที่ดีงามร่วมกัน จึงยังเป็นแรงส่งที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณคนทำสื่อมืออาชีพต่อไป

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ในฐานะองค์กรวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนด้านวิทยุและโทรทัศน์ ขอน้อมรับคำวิพากษ์ในความผิดพลาด ความบกพร่องที่เกิดขึ้น ตลอดจนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ด้วยความขอบคุณ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป

อย่างไรก็ดีเราก็มีความภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนด้านวิทยุและโทรทัศน์ ที่มีบทบาทอย่างสำคัญในการตีแผ่การกวาดล้างขบวนการทุจริตผิดกฏหมาย และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีงามแก่ชาติบ้านเมือง เราจะยึดมั่น และยืนหยัดในการทำหน้าที่คนข่าวมืออาชีพ เป็นสื่อมวลชนที่ดีให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

5 มีนาคม 2566
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย