ชาวบ้านสุดทน ล่ารายชื่อไล่เจ้าอาวาสพ้นวัด หลังสงกรานต์

หลังสงกรานต์ ชาวต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตรและผู้นำท้องถิ่นสุดทนล่ารายชื่อยื่นหนังสือให้หน่วยงานที่รับผิดชอบขับไล่เจ้าอาวาสกับพวกออกจากวัดทันที อ้างถูกแต่งตั้งเข้ามาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีการใช้กฎหมายกับชาวบ้านอย่างไม่มีเมตตาธรรมฟ้องร้องชาวบ้านนับร้อยคดี เลี้ยงนักเลงไว้รังแกชาวบ้าน นำคนใกล้ชิดหาผลประโยชน์มหาศาลจากวัด

นางสาวสุภา อยู่ยืด ประธานองค์กรชุมชนรักวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลานพร้อมด้วยชาวบ้าน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่ต่อต้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้นำหนังสือรวบรวมรายชื่อ ชาว ต.บางคลาน อ.โพทะเล เตรียมยื่นให้กับ หน่วยราชการที่รับผิดชอบใน จ.พิจิตรและ พระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะภาค เจ้าอาวาสวัดคูยาง พระอารามหลวง จ.กำแพงเพชร โดยมีรายละเอียดเป็นเรื่อง ขับไล่เจ้าอาวาสกับพวกออกจากวัด โดยอ้างว่าเป็นผู้มีอิทธิพล เป็นปฏิปักษ์กับชาวบ้านมาตั้งแต่ ปี 2557 การแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัด โดยเจ้าคณะตำบลแห่งหนึ่งโดยไม่ชอบด้วย พรบ.คณะสงฆ์ และกฎมหาเถรสมาคม การแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส มีการข่มขู่ ไม่มีการประชุมคณะสงฆ์จริง และไม่มีสอบถามชาวบ้านเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ที่สำคัญเจ้าอาวาสและพวก ยังมีคดียิงชาวบ้านในวัด ถูกศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ตัดสินให้จำคุก ขณะนี้อยู่ชั้นศาลฎีกา ที่จะมีตัดสินเร็วๆนี้

นอกจากนี้ เจ้าอาวาสกับพวกยังกล่าวหากลั่นแกล้งฟ้องดำเนินคดีกับชาวบ้านประสงค์ให้ชาวบ้านติดคุก เพื่อไม่ให้ชาวบ้านขัดขวางการหาประโยชน์ในวัด เจ้าอาวาสกับพวก นำเงินวัดที่ชาวบ้านและอดีตเจ้าอาวาสสะสมเงินบริจาคฝากบัญชีวัด จำนวน 106 ล้านบาท หากรวมดอกเบี้ยรวมเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 130 ล้านบาท ไปตั้งแต่ ปี 2557 – ปัจจุบัน โดยไม่ชี้แจงแต่อย่างใด เจ้าอาวาสกับพวก ได้จัดสร้างวัตถุมงคลจำหน่ายหลายครั้งเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท มีการร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ และช่องก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาเจ้าอาวาสกับพวก ได้ทำการขนพระมาไว้ที่กุฎิเจ้าอาวาสจำนวนมาก ทั้งยังไม่ผ่านพิธีปลุกเสก หวังจำหน่ายในเทศกาลสงกรานต์เป็นเงินนับล้านบาท และยัง มีเรื่องทุจริตอีกมาก กำลังจะถูกดำเนินคดีทั้งแพ่ง ทั้งอาญา ชาวบ้านไม่ได้มีผลประโยชน์หากินกับวัด ไม่เหมือนพระดังกล่าวกับพวก ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าชาวบ้านได้เก็บรักษาเงินบริจาคไว้กว่า 130 ล้านบาท

ชาวบ้านและผู้นำท้องที่ท้องถิ่น มีมติเอกฉันท์ลงลายมือชื่อขับไล่ พระรูปดังกล่าวกับพวกให้พ้นวัดโดยทันที และให้ตั้งคณะกรรมการทั้งหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นเข้าตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดของวัด