ประธานศาลฎีกา ตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดชุมพร และศาลเยาวชนฯ จ.ระนอง

ประธานศาลฎีกา ตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดชุมพร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง ชื่นชมร่วมมือร่วมใจทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อประชาชนในพื้นที่ สร้างชื่อเสียงศาลยุติธรรม สอดคล้องนโยบาย “รักศาล ร่วมใจ รับใช้ประชาชน”

วันนี้ (27 เมษายน 2566) นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดชุมพร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง

โดยมีนางสาวรังสิมา ลัธธนันท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระยอง ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชุมพร นายวชิระ แก้วภักดี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงพระนครเหนือ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร และนางสาวเสริมศรี ผ่องศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ

โดยประธานศาลฎีกา มอบนโยบายแก่คณะผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนคณะผู้พิพากษาสมทบและผู้ประนีประนอม พร้อมทั้งรับฟังรายงานผลการดำเนินงานการปฏิบัติตามนโยบายประธานศาลฎีกา และแนวทางการปรับปรุงพัฒนาของศาล

ซึ่งประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ศาลจังหวัดชุมพรเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาทั้งคดีจังหวัดและคดีแขวง ประกอบกับยังมีคดีที่ค้างพิจารณาค่อนข้างมาก จึงควรกำหนดเป้าหมายการทำงานให้ชัดเจนและวางระบบบริหารจัดการคดีทุกขั้นตอนตั้งแต่ชั้นรับฟ้องให้เหมาะสมในแต่ละประเภทคดี เช่น คดีจังหวัด คดีแขวงและคดีจัดการพิเศษ รวมทั้งลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลง เพื่อให้สามารถพิจารณาพิพากษาคดีได้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย โดยการไกล่เกลี่ยเป็นกลไกสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้คดียุติลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรประชาสัมพันธ์ให้คู่ความเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการไกล่เกลี่ย พัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการไกล่เกลี่ย ตลอดจนเพิ่มจำนวนผู้ประนีประนอมประจำศาลให้สามารถรองรับคดีได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถเปิดทำการศาลในวันหยุดราชการและนอกเวลาราชการเพื่อเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาคดีได้อีกทางหนึ่งด้วย

ในส่วนศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชุมพร ประธานศาลฎีกากล่าวว่า เป็นศาลที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกจากสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 ในโครงการจัดประกวดศาลดีเด่นเพื่อประชาชนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคดีและการบริการประชาชน จึงขอให้มุ่งมั่นพัฒนาระบบการทำงานและยกระดับการบริการประชาชนให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น เพื่อให้มีโอกาสได้รับรางวัลในการประกวดศาลดีเด่นเพื่อประชาชน ครั้งที่ 2 ที่จะประกาศผลในเดือนกันยายน 2566 

ขณะที่การตรวจเยี่ยมศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง ประธานศาลฎีกา กล่าวว่าปัจจุบันศาลยุติธรรมควรปรับตัวตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกันศาลเยาวชนและครอบครัวที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคและมีผู้พิพากษาสมทบกับผู้ประนีประนอมซึ่งเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและเข้าใจวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ควรต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น ดังนั้นนอกจากโครงการฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดอันเป็นภารกิจหลักแล้ว ขอให้บุคลากรทุกคนรวมพลังกันทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ด้านอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นเกิดความรู้สึกที่ดีต่อศาลเยาวชนและครอบครัว อันจะนำมาซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรศาลยุติธรรม

โดยระหว่างการตรวจเยี่ยมศาลวันนี้ ประธานศาลฎีกาได้พบปะพูดคุยกับคณะผู้พิพากษาสมทบที่มาร่วมให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวชื่นชมที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อประชาชนในพื้นที่ อันเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ศาลยุติธรรมและสอดคล้องกับนโยบาย “รักศาล ร่วมใจ รับใช้ประชาชน” พร้อมกันนี้ประธานศาลฎีกายังได้ทักทาย พูดคุยและรับฟังปัญหาข้อขัดข้องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามส่วนงานต่าง ๆ รวมถึงให้กำลังใจในการปฏิบัติงาน และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้บริการประชาชน อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ภารกิจการตรวจเยี่ยมศาลภาค 8 ประธานศาลฎีกาและคณะ มีกำหนดการที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดระนองต่อไป ในวันพรุ่งนี้ 28 เมษายน 2566