“อลงกรณ์” ชูผลงานประชาธิปัตย์ส่งออกสินค้าประมงสูงสุดในรอบ 9 ปี

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเพชรบุรี เขต 1 ในฐานะทีมเศรษฐกิจกล่าวในเวทีดีเบต “อนาคตประมงไทยหลังการเลือกตั้ง” วันนี้ (4พ.ค.) ที่องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ThaiPBS) ว่า พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นในศักยภาพประมงไทยโดยยกระดับนโยบายประมงเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ บนแนวทางการพัฒนาประมงอย่างยั่งยืน สู่เป้าหมายประเทศผู้นำประมงโลกภายใต้ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจสีฟ้า (Blue Economy) สร้างมูลค่า 6 แสนล้าน สร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ 5 แนวทาง

  1. เร่งรัดพัฒนาอุตสาหกรรมประมง กระจายการลงทุน 18 กลุ่มจังหวัด
  2. สร้างฐานใหม่ เขตเศรษฐกิจพิเศษประมง อ่าวตัว ก.,อันดามัน,อ่าวไทย, 4 จังหวัดใต้สุด และทุกภาค
  3. ส่งเสริมการลงทุนประมงไทยในต่างประเทศ
  4. ฟื้นฟูพัฒนาประมงสู่ศักยภาพใหม่ ทั้งประมงนอกน่านน้ำ ประมงพาณิชย์ ประมงพื้นบ้าน อุตสาหกรรมกุ้งไทย และประมงเพาะเลี้ยงรวมถึงอุตสาหกรรมประมงแห่งอนาคต เช่นอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง อาหารแห่งอนาคต(สาหร่าย โปรตีนทางเลือกใหม่)ประมงอินทรีย์ ประมงมูลค่าสูง (เวชสำอางค์ วิตามิน ยา-อาหารเสริม)และประมงท่องเที่ยว
  5. เดินหน้าการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก

สำหรับ 10 นโยบายประมงเร่งด่วน ที่พรรคประชาธิปัตย์มุ่งดำเนินการสร้างอนาคตประมงไทยได้แก่

  1. การปลดล็อคกฎหมายประมงภายใต้IUU
  2. การเริ่มต้นใหม่ (Set Zero )จัดประชาพิจารณ์ ประเด็นนิรโทษกรรมเรือประมง
  3. โครงการเรือประมงออกนอกระบบจบใน 90 วันเฟส 1 จำนวน 1,007 ลำ และ120วัน เฟส 2 จำนวน 792 ลำ
  4. การประกันราคากุ้งขั้นต่ำและสัตว์น้ำอื่น ๆโดยภาคเอกชนในระบบไตรภาคี โดยมีการขับเคลื่อนมาแล้วโดยบอร์ดกุ้ง
  5. เติมทุนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น1แสนต่อปี
  6. น้ำมันประมงราคาถูกสำหรับประมงพื้นบ้าน 5 หมื่นลำ
  7. จัดตั้งธนาคารหมู่บ้านประมง ธนาคารชุมชนประมง 2 ล้าน
  8. จัดตั้งสภาการประมงแห่งประเทศไทยและกองทุนประมงแห่งชาติ
  9. ต่อยอดศูนย์ AIC ประมง ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาการประมงและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ
  10. บริการดิจิตอลเสร็จภายใน 4 ปี สานต่อโครงการ E-Fisheries NSW
    “พรรคประชาธิปัตย์ดูแลกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ.ฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพประมงไทยสามารถสร้างเงินเข้าประเทศในปี2565จากการส่งออกสินค้าประมง 2.3 แสนล้านบาท สูงสุดใน 9 ปี ในขณะที่นำเข้า 1.5 แสนล้านบาทโดยได้เปรียบดุลการค้ากว่า 8 หมื่นล้านบาท แยกเป็นการส่งออกทูน่ากระป๋อง5 แสนตัน มูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 7 ปี
    ส่งออกกุ้งและผลิตภัณฑ์1.5 แสนตัน มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้าน สูงสุดในรอบ 3 ปี และส่งออกอาหารกระป๋องสาหรับสุนัขและแมว 1.4 แสนตัน มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์.”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด