“เบโด้”หนุนวิสาหกิจชุมชน จ.น่าน

“เบโด้”หนุนวิสาหกิจชุมชนจ.น่าน พัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร สร้างรายได้ ยกระดับการท่องเที่ยวชีวภาพควบคู่การอนุรักษ์อย่างยั่งยืน

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO (เบโด้) ให้การส่งเสริมด้าน “พัฒนาผลิตภัณฑ์ สนับสนุนการท่องเที่ยวชีวภาพ” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากความหลากหลายทางชีวภาพ ภายใต้แนวคิด BEDO – BCG ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้ ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพในจังหวัดน่าน ส่งมอบองค์ความรู้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้แก่ชุมชน


นายสุวีร์ งานดี รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ หรือ เบโด้ (BEDO) สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยหลังนำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนในจ.น่านที่เบโด้ให้การสนับสนุนว่า น่านเป็นจังหวัดที่มีทรัพยากรชีวภาพที่หลากหลาย มีระบบนิเวศธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ เบโด้ได้เข้ามาส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนที่น่านหลายที่ อาทิ “วิสาหกิจชุมชนชีววิถี บ้านน้ำเกี๋ยน” ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยคนในชุมชนร่วมมือทำผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมีเพื่อใช้ในครัวเรือนเอื้อประโยชน์ด้านการลดรายจ่าย โดยการนำผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมีที่ได้จากทรัพยากรในท้องถิ่น พัฒนาออกสู่ตลาด จนสามารถสร้างรายได้ให้แก่   วิสาหกิจชุมชนชีววิถี บ้านน้ำเกี๋ยน มาตลอดระยะเวลา 14 ปี ตรงนี้เบโด้ได้เล็งเห็นศักยภาพของชุมชนด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายชนิด อาทิ แชมพู สบู่ ครีมบำรุงผิว ที่ใช้วัตถุดิบที่ได้จากทรัพยากร เช่น ใบหมี่ ดอกอัญชัน มะเฟือง มะกรูด มะขาม ขมิ้นชัน ซึ่งเบโด้ได้เข้ามาส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนชีววิถี บ้านน้ำเกี๋ยน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งเรื่องการให้องค์ความรู้ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ รวมถึงนำนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เข้ามาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้คุณภาพ เพื่อนำส่งต่อกลุ่มผู้บริโภค สร้างความเข้มแข็งและสร้างเศรษฐกิจภายในชุมชนอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาสร้างรายได้ให้ชุมชนมากกว่า100 ล้านบาท ซึ่งสอดคลองกับพันธกิจของสำนักงาน

“นอกจากวิสาหกิจชุมชนชีววิถี บ้านน้ำเกี๋ยน ที่เบโด้ให้การสนับสนุนแล้ว ยังมี “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปมะไฟจีนบ้านกอก” ในอ.ภูเพียง ที่เบโด้ได้เข้ามาสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นองค์กรบริหารส่วนตำบล กลุ่มนักวิชาการ และมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาน่าน เพื่อยกระดับเศรษฐกิจในชุมชนให้พึ่งพาตนเองและสร้างความยั่งยืน โดยใช้ประโยชน์จากฐานทรัพยากรชีวภาพที่ชุมชนมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่าง “มะไฟจีน” ถือได้ว่าเป็นพืชอัตลักษณ์และกลายเป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้เข้าชุมชน โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้ลองชิมรสชาติของมะไฟจีนแล้วมักจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์มะไฟจีนแปรรูปไปเป็นของฝาก ซึ่งมะไฟจีนนอกจากแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าให้แก่ชุมชนแล้ว ยังนำเมล็ดมาสกัดน้ำมันหอมระเหย ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เจลอาบน้ำ ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากการนำมะไฟจีนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกมิติ ทั้งการสร้างรายได้ในชุมชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และนำคุณค่าจากทรัพยากรชีวภาพยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสังคมที่ดีให้แก่ผู้คนในชุมชน เบโด้ได้ส่งเสริมการจัดตั้ง ธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน (Community BioBank) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลศึกษาการเจริญเติบโตและคัดแยกความแตกต่างของมะไฟจีน เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บข้อมูลและพัฒนาวิจัยเมล็ดพันธุ์มะไฟจีนให้ได้คุณภาพ ช่วยวิสาหกิจชุมชนควบคุมคุณภาพของเมล็ดพันธุ์มะไฟจีนให้คงอยู่ และนำไปสู่การผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพสูงสุด” นายสุวีร์ กล่าว

นายสุวีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เบโด้ ยังดำเนินงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างความยั่งยืนให้แก่คนในชุมชน ที่เห็นโอกาสในการยกระดับ พัฒนาต่อยอด การใช้ประโยชน์จากฐานทรัพยากรชีวภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนใต้แนวคิด BEDO – BCG ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน อย่าง “วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์พอเพียงร่วมใจสันติสุข” ใน อ. สันติสุข ที่ตั้งเป้าพัฒนาระบบการทำเกษตรอินทรีย์ให้ยั่งยืนทั้งในแง่คุณภาพชีวิตของเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระบวนการดังกล่าวล้วนต้องอาศัยความรู้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง เบโด้ได้เข้ามาให้การส่งเสริมด้านองค์ความรู้แก่ศูนย์การเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ได้พืชผักผลผลิตที่ปลอดสารเคมี และมุ่งเน้นพัฒนาด้านการเพาะปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้มีคุณภาพ รวมถึงการหาตลาดรองรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้การพัฒนาเกษตรอินทรีย์นั้นยั่งยืน  รวมถึงการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวชีวภาพให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสได้สัมผัสวิถีชุมชนที่สามารถพึ่งพาตนเอง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรชีวภาพในชุมชน สร้างโอกาสในเชิงเศรษฐกิจให้แก่ผู้คน ค้นพบความสามรถและดึงศักยภาพที่ชุมชนมีออกมาใช้ ส่งมอบคุณค่าที่ได้จากทรัพยากรในท้องถิ่นส่งต่อเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพออกสู่กลุ่มผู้บริโภคในจ.น่าน และกลุ่มนักท่องเที่ยวจนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากชุมชนกลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้จ.น่านยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลากหลายแห่ง ที่เหล่านักท่องเที่ยวให้ความสนใจหลั่งไหลเข้ามาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยว นักเดินทาง หลั่งไหลเข้าไปท่องเที่ยวอยู่เสมอ ซึ่งสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน และการท่องเที่ยวเชิงชีวภาพที่เบโด้ให้การสนับสนุนนั้น นับว่าเป็นช่องทางที่สร้างรายได้เข้าถึงชุมชนอย่างแท้จริงและยกระดับคุณญภาพชีวิตวิถีชุมชนอย่างยั่งยืน.