รถเมล์สาย 69 ชนกับมอเตอร์ไซค์ และปีนขึ้นฟุตบาท เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 3 ราย

เมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่ม วันที่ 26 ธันวาคม เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทาง สาย 69 รามคำแหง-ท่าอิฐ ชนรถสามล้อรับจ้าง ก่อนพุ่งชนประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตบริเวณถนนเพชรบุรีขาออก ใกล้ซอยเพชรบุรี 31 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ส่งผลให้นายอภิวุฒิ อัศวทรัพย์ทวี อายุ 28 ปี พ่อค้าเสื้อผ้าย่านประตูน้ำที่ขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตคาที่ และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย เป็นหญิงสาวที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต , พนักงานเก็บค่าโดยสารบนรถเมล์ และคนขับรถเมล์ที่มีอาการแน่นเจ็บหน้าอก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งหมด

จากการสอบถามนายพิชัย บุญเพิ่ม อายุ 52 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองขับรถมาจากแยกประตูน้ำ มุ่งหน้าคลองตัน ส่วนรถเมล์ขับมาในทิศทางฝั่งถนนเพชรบุรีขาเข้า ซึ่งขณะนั้นการจราจรติดขัดอย่างมาก จู่ๆ รถเมล์ก็หักขวาออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปชนเข้ากับรถสามล้อรับจ้างที่กำลังจะเลี้ยวขวาไปทางถนนชิดลม โดยตนเองเห็นไม่ชัดว่าชนกันจากสาเหตุใด มีการขับขี่ตัดหน้ากันหรือไม่ แต่หลังจากชนรถสามล้อแล้วรถเมล์ก็พุ่งเข้าชนกับรถจักรยานยนต์ก่อนจะลากพุ่งขึ้นทะลุทางเท้า ไปจอดอยู่บริเวณไซต์งานก่อสร้างปั๊มน้ำมันปตท. ลักษณะเหมือนไม่ได้มีการเหยียบเบรคเลย ตนเองพยายามสอบถามคนขับรถเมล์ แต่คนขับรถเมล์ก็ยังอยู่ในอาการสับสนตอบไม่ได้ว่าทำไมรถเมล์จึงไม่เบรค

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า นายสุเทพ วงศ์เกิด อายุ 69 ปี คนขับรถเมล์ ให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า มาจากแยกประตูน้ำถนนเพชรบุรี พอถึงจุดเกิดเหตุมีรถสามล้อกำลังเลี้ยวขวาไปถนนชิดลม อย่างกระชั้นชิด จึงหักพวงมาลัยขวาหลบและด้วยความตกใจจะเหยียบเบรกกลับไปเหยียบคันเร่งจนควบคุมรถไม่ได้พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมทางเท้า

ขณะที่นายถนอม เชียงใหม่ อายุ 60 ปี คนขับรถสามล้อ ยืนยีนว่า ตนเองไม่ได้ขับตัดหน้ารถเมล์กระชั้นชิด แต่ตนเองรับผู้โดยสารวิ่งเส้นทางถนนเพชรบุรีขาออก กำลังจะเลี้ยวขวามุ่งหน้าถนนชิดลม ซึ่งการจราจรทั้ง 2 ฝั่งติดขัด รถจอดหยุดนิ่งทั้งหมด จนแม้แต่ตนเองที่กำลังรอเลี้ยวก็ยังเลี้ยวไปไม่ได้ แต่จู่ๆ รถเมล์ก็พุ่งมาชนรถตนเองเลย ทั้งที่รถติด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.พญาไท จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุก่อน เพราะยังไม่ชัดเจนว่ามีการขับขี่ตัดหน้า หรือขับขี่โดยประมาทจนทำให้รถเสียหลักหรือไม่ หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบรถเมล์ ซึ่งเป็นรถพลังงานไฟฟ้าหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องนำรถเมล์กลับไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง