นิติเวช จุฬาฯ แถลงผลชันสูตรการเสียชีวิต 6 ชาวเวียดนาม เสียชีวิตจากไซยาไนด์

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.00น. ที่รพ.จุฬาฯ มีการแถลงผลชันสูตรกรณีการเสียชีวิต ชาวเวียดนาม 6 ราย เสียชีวิตจากการถูกวางยาในโรงแรมแห่งหนึ่ง พื้นที่ สน.ลุมพินีรศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ และ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงผลการชันสูตรพลิกศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายว่า จากผลการตรวจร่างผู้เสียชีวิต รพ.จุฬาได้ทำหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ก.ค.67ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเวลา 17.00น. จนไปถึง 18.00 น. ว่ามีการพบศพในโรงแรมดังกล่าว จึงได้ส่งทีมชันสูตรออกไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนรายละเอียดการชันสูตร นพ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลศิลป์ จะเป็นผู้อธิบาย

นพ.กรเกียรติ เปิดเผยว่า ทีมแพทย์ รพ.จุฬาฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการชันสูตรหลังได้รับแจ้งพบศพ จากนั้นก็นำร่างทั้ง 6 รายมาชันสูตรที่ รพ.จุฬาฯ ภาพรวมของศพทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วย หญิง 3 ชาย 3 หน้าที่ของศูนย์ชันสูตรคือ อันแรกพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 2.ระยะเวลาเสียชีวิต โดยประเมินตั้งแต่ที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทีมแพทย์ประเมินว่าเสียชีวิตมาแล้ว 12-24 ชั่วโมง ซึ่งได้มาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ในศพทุกรายพบสอดคล้องกัน 3.สาเหตุการเสียชีวิต ได้ชันสูตรตั้งแต่รับศพเมื่อคืน มีการเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ น้ำวุ้นลูกตาในรายที่เก็บได้ เพื่อไปหาสาเหตุการตายร่วมและได้มีการตรวจ CT Scan เพื่อหาร่องรอยอาการบาดเจ็บ

เบื้องต้นไม่พบการถูกทำร้าย ขั้นตอนถัดมาผ่าแยกธาตุ ใน 6 รายนี้สิ่งที่ปรากฎในทุกรายคือ มีร่องรอยของการขาดอากาศเกิดขึ้น ดูจากริมฝีปากมีสีม่วงเข้ม ใบหน้า รวมถึงการตกสู่เบื้องต่ำของเลือด และปลายเล็บมือมีสีม่วง บ่งชี้ว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศร่วมด้วย อีกอย่างที่สำคัญคือการตกเบื้องต่ำของเลือด เป็นสีแดงสด แตกต่างจากเคสทั่วไป จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาจจะมีสารพิษมาเกี่ยวข้อง น่าจะเป็นไซยาไนด์ และตรวจสารพิษอื่นๆ ร่วมด้วย

จากนั้นเป็นการผ่าชันสูตร อวัยวะภายในไม่พบร่องรอยอะไรที่สำคัญ โดยพบการคั่งเลือดของอวัยยะทุกราย สาเหตุการเสียชีวิตของทุกคนมาจากพิษของสารไซยาไนด์ ส่งผลให้เกิดการขาดอากาศในระดับเซลล์ จากนั้นนำเลือดไปพิสูจน์คัดกรองสารไซยาไนด์ ให้สีที่เป็นบวก ต้องรอยืนยันผลตรวจเลือดอีกครั้ง 1-2 วันจากนี้ไป สรุปทั้ง 6 คนเจอสารไซยาไนด์

ส่วนร่างกายที่พบมีสารไซยาไนด์นั้น จะพบเลือดและอวัยวะภายในสีแดงสดกว่าปกติ ส่วนปริมาณการได้รับสารไซยาไนด์ ยังประเมินไม่ได้ว่ารับเยอะเท่าไร สำหรับสารอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างวิเคราะห์และรอผลจากห้องแล็บ รวมทั้งคัดกรองสารอื่นๆ คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ในกระเพาะบางคนมีเศษอาหาร บางคนย่อยเยอะ บางคนย่อยน้อย

ทั้งนี้นพ.ฉันชาย ได้อธิบายเพิ่มว่า อุณหภูมิในห้องก็มีส่วนทำให้การเปลี่ยนแปลงของศพไม่แน่นอน ส่วนระดับไซยาไนด์ในเลือด ถ้าได้รับเกิน 3 มิลลิกรัมต่อซีซี จะออกฤทธิ์ภายในเวลาไม่เกิน 1 นาที และเสียชีวิต ต้องรอดูว่าสารไซยาไนด์ในเลือดมีปริมาณเท่าไร และการตรวจหาสารไซยาไนด์ในนิ้วมือหรือภายนอกร่างกายนั้นหาค่อนข้างยาก จึงต้องใช้วิธีการตรวจหาในเลือดแทน อย่างไรก็ตามภายในวันศุกร์ คาดว่าน่าจะรู้ผลไซยาไนด์ในเลือด

ทางด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ รอง ผบช.น. เปิดเผยอีกว่า สำหรับที่มาของไซยาไนด์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างไล่ไทม์ไลน์ของแต่ละคนว่าตั้งแต่เข้ามาประเทศไทยไปไหนมาบ้าง ไปพบใครบ้าง อยู่กับใครบ้าง จนถึงตอนกลับเข้ามาโรงแรมแล้วเสียชีวิต ส่วนการหาซื้อสารไซยาไนด์ในกรุงเทพนั้นก็มีหลายช่องทาง ทั้งสั่งทางเว็บไซต์ หรือหาซื้อจากบริษัทที่จำหน่าย แต่พวกนั้นก็มีกฎหมายควบคุมการซื้อขายและการใช้งานอยู่แล้ว แต่เขาอาจจะหาช่องทางการได้มา

ส่วนกรณีการนำติดตัวเข้ามาเองจากต่างประเทศนั้น ก็ยากที่จะตรวจสอบ ซึ่งได้ตั้งไว้ 2 ส่วน คือมีการเตรียมมาแล้ว และมาหาซื้อในไทย หลังจากนั้นยังต้องรอผลการตรวจสอบทุกอย่างอย่างละเอียด จึงจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน และจะแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง