“อลงกรณ์”ขับเคลื่อน”เพชรบุรีโมเดล” คิกออฟโครงการพืชเศรษฐกิจใหม่สาหร่ายอาหารแห่งอนาคต

“อลงกรณ์”นำกระทรวงเกษตรขับเคลื่อน”เพชรบุรีโมเดล”คิกออฟโครงการพืชเศรษฐกิจใหม่สาหร่ายอาหารแห่งอนาคต(Future Food)หวังสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 291977_th.jpg

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2565   นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยกล่าววันนี้(14 ส.ค.)ว่า วันนี้เป็นการคิกออฟขับเคลื่อนโครงการพืชเศรษฐกิจใหม่สาหร่าย:อาหารแห่งอนาคต(Future Food)ที่เพชรบุรีเป็นจังหวัดแรกเพื่อสร้างอาชีพเพิ่มรายได้เกษตรกรโดยกรมประมงซึ่งมีภารกิจตามกฎหมายรับผิดชอบสัตว์น้ำและพืชน้ำเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารโครงการร่วมด้วยนายสมบุญ ธัญญาผล ประมงจังหวัด ว่าที่ร้อยตรีอาณัติ หุ่นหลา เกษตรจังหวัด นส.ศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัด นายประพัฒน์ ก่อสวัสดิพัฒน์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี

การเลือกเพชรบุรีเป็นจังหวัดคิดออฟโครงการเนื่องจากมีพื้นฐานการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในพื้นที่อำเภอบ้านแหลมโดยการสนับสนุนของกรมประมงและเป็นจังหวัดตัวอย่างต้นแบบในยุทธศาสตร์และแผนกลยุทธ์การพัฒนาสาหร่ายให้เป็นหนึ่งในจังหวัดต้นแบบภายใต้แนวทาง”เพชรบุรีโมเดล” ซึ่งจะส่งเสริมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การพัฒนาการผลิตด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยีสมัยใหม่ การสร้างศักยภาพผู้เพาะเลี้ยงสาหร่าย การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มโดยวิสาหกิจชุมชน องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นและผู้ประกอบการภาคเอกชน  การสร้างแบรนด์และการส่งเสริมการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยกรมประมงได้ผนึกความร่วมมือกับภาครัฐภาคเอกชนภาควิชาการ มูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท และมูลนิธิเวิลด์วิว อินเตอร์เนชั่นแนลโดยได้เยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรีที่แหลมผักเบี้ยดำเนินการวิจัยและพัฒนาสาหร่ายทะเลหลายสายพันธุ์เช่น สาหร่ายพวงองุ่น สาหร่ายลิ้นมังกร สาหร่ายผักกาด สาหร่ายโพรงสาหร่ายขนนกและสาหร่ายผมนางเป็นต้น จากนั้นจึงไปดูกิจการฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายเช่นแฟมิลิฟาร์ม เบญจมาศฟาร์มและฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายแบบเกษตรอินทรีย์ที่ฟาร์มทะเลตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบามราชินีนาถ
  
“เพชรบุรีมีศักยภาพมากสำหรับการพัฒนาเป็นโมเดลต้นแบบการขับเคลื่อนโครงการสาหร่าย อาหารแห่งอนาคตและจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศ เนื่องจากปัจจุบัน การผลิตสาหร่ายทะเลเติบโตอย่างรวดเร็ว มีผลผลิตทั้งหมดทั่วโลกในปี 2562 ไม่น้อยกว่า 35 ล้านตัน มีมูลค่ารวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 5 แสนล้านบาทโดยประเทศไทยมี22จังหวัดติดทะเลมหาสมุทรเหมาะกับสาหร่ายทะเลและ28จังหวัดบนบกสามารถเพาะเลี้ยงสาหร่ายน้ำจืด
  
ทั้งนี้นโยบายสาหร่ายพืชแห่งอนาคต อาหารแห่งอนาคต(Future Food)ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ มุ่งยกระดับอัพเกรดภาคเกษตรของไทยสู่เกษตรมูลค่าสูง เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ใหม่ให้เกษตรกรและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง รวมทั้งตอบโจทย์วาระเศรษฐกิจมหาสมุทรที่ยั่งยืน (Sustainable Ocean Economy) เพื่อเป็นส่วนร่วมในทศวรรษวิทยาศาสตร์มหาสมุทรแห่งสหประชาชาติ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (พ.ศ. 2564-พ.ศ. 2573) และการลดภาวะโลกร้อนจากผลกระทบของก๊าซเรือนกระจก จึงดำเนินการสนับสนุนส่งเสริมการผลิตและแปรรูปสาหร่ายเป็นอาหารแห่งอนาคตตัวใหม่ เนื่องจากมีศักยภาพที่จะนำไปใช้ในอาหาร อาหารเสริม อาหารสัตว์ ปุ๋ย เชื้อเพลิงชีวภาพ เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง เซรั่มชะลอความแก่ เป็นต้น.”