ดาบเชาว์จนมุม !! ผบ.ตร.ยืนยันควบคุมตัวได้แล้ว หลังถูกออกหมายจับขโมยปืนหลวง

ผบ.ตร.ยืนยันรวบตัวดาบเชาว์ ขโมยปืนหลวง สภ.ปากเกร็ด ได้แล้วที่หนองคายขณะเตรียมเผ่นหนีออกนอกประเทศ ด้าน ผบช.ภ.1 สั่งตั้งกรรมการสอบหัวหน้าสถานี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ยอมรับว่าขณะนี้ตำรวจสามารถควบคุมตัว ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร  ผบ.หมู่งานธุรการ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีขโมยปืนหลวงจาก สภ.ปากเกร็ด ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ฐานความผิดลักทรัพย์ในสถานที่ราชการได้ที่ อ.เมือง จ.หนองคาย เชื่อว่ามีพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ

สำหรับเรื่องดังกล่าวขณะนี้ กองบัญชาการภาค 1 ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ดให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ภาค 1 โดยขาดจากตำแหน่งเดิมจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ

ด้านพล.ต.ท.จิรภัทร ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยอมรับว่า สภ.ปากเกร็ดมีความหละหลวมบกพร่อง ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่พัสดุ ถือกุญแจคลังอาวุธตั้งแต่ปี 2547 รวมระยะเวลา 18 ปี ซึ่งต้องมีการรายงานจำนวนอาวุธในคลังให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกวันที่5 ของเดือน  โดยครั้งล่าสุดมีการรายงานปกติ แต่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้ตรวจพบว่ามีอาวุธหายไป จนสืบทราบในเวลาต่อมาว่า เป็น ด.ต.เชาวลิต ทยอยนำออกไปจำนำให้กับคนภายนอกหลายคน รายละ 3-5 กระบอก และนำเงินที่ได้ไปใช้จ่าย ซึ่งปืนส่วนใหญ่ที่นำออกไปเป็นปืนประจำกายลูกโม่ ซิกซาวเออร์ กล็อก ซึ่งเป็นปืนล็อตใหม่ที่ได้รับมาตั้งแต่ปี 64  ส่วนจะมีปืนยาวด้วยหรือไม่นั้นอยู่ระหส่างการตรวจสอบ แต่ยังไม่มราบว่า ดค.ชวลิตมีปัญหาการเงินหรือไม่  แต่ทราบว่าเป็นโสด

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ศูนย์สืบตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งจะสอบถามรายละเอียดและเหตุจูงใจ และหลังจากนี้ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 1 จะเพิ่มมาตรการเปิดคลังอาวุธให้เข้มงวดขึ้น โดนจะต้องมีผู้มีผู้ถือกุญแจ 2 คน และเปิดครั้งละ 2 ดอกเหมือนกันกับระบบตู้เซฟของธนาคาร