“แรมโบ้”ผงาดนั่งหัวหน้าพรรคเทิดไทย้ำหนุน”บิ๊กตู่”เป็นนายกฯต่อ

“แรมโบ้” ผงาด นั่งหัวหน้าพรรคเทิดไท  “สุชาติ” เลขาธิการพรรค ย้ำจุดยืนสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีก ทำงานแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ปกป้องสถาบัน ไม่ร่วมงานพรรคล้มล้างสถาบัน เชื่อมั่น 3 ป.ไม่แตก ทำงานคู่ขนาน 

26 พฤศจิกายน พรรคไทยรักชาติ จัดการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคครั้งที่ 1 ที่โรงแรม เบสท์เวสเทิร์น พลัสแวนด้า มีวาระเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “พรรคเทิดไท” พร้อมเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ เนื่องจากนายสุชาติ บรรดาศักดิ์ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค  โดยจากการลงคะแนนของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ มีคะแนนเป็นเอกฉันท์เลือกนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้เป็นหัวหน้าและนายสุชาติ บรรดาศักดิ์ เป็นเลขาธิการพรรคเทิดไท

นายเสกสกล ระบุว่าพรรคได้เปลี่ยนชื่อจากรวมไทยรักชาติเป็นพรรคเทิดไท มีจุดยืนคือ ปกป้องสถาบันของชาติ และคงไว้ซึ่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่เอาคนที่ล้มล้างสถาบันสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นนายกต่อในเวลาที่เหลือ ขณะเดียวกันให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม ทำงานเพื่อประชาชน แก้ไขปัญหาให้เกษตรกรรากหญ้า แก้ปัญหาหนี้สิน ส่งเสริมความอยู่ดีกินดี ทั้งนี้จะมีการกำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคอีกครั้งหนึ่ง

นายเสกสกล ยังกล่าวถึงกระแสข่าวพล.อ.ประยุทธ์ จะย้ายไปร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าที่ผ่านมาตนเองเคยมีส่วนร่วมก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมองว่าพล.อ.ประยุทธ์อาจจะถูกกดดันจนไม่พรรครองรับ แต่ตัวเองไม่เหมาะกับพรรครวมไทยสร้างชาติจึงได้หาคนประวัติดีอย่างนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ไปเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ 

ซึ่งเรื่องเซอร์ไพรส์มีตัวย่อบิ๊ก ต. ที่ว่าก็คือบิ๊กตุ๋ย ไม่ใช่บิ๊กตู่ และตนเองยังประกาศชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าจะไม่รับตำแหน่งในพรรครวมไทยสร้างชาติ จนกระทั่งมาเจอพรรครวมไทยรักชาติที่มีจุดยืนชัดเจน มีอุดมการณ์เดียวกัน 

นายเสกสกลยังเชื่อมั่นว่า 3 ป.ไม่มีทางแยกกันอย่างแน่นอน แม้ว่าพลเอกประยุทธ์ จะย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติตามที่มีกระแสข่าวออกมา และเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะทำงานทางการเมืองคู่ขนานกันได้ ไม่มีปัญหา เพราะความเป็นพี่เป็นน้อง50 ปี ตัดกันไม่ขาด และจะร่วมรัฐบาลกันได้แน่นอน

พร้อมย้ำว่า พรรคเทิดไทสามารถร่วมงานทางการเมืองได้กับทุกพรรค ยกเว้นพรรคที่มีแนวทางปฏิรูปสถาบัน และแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 โดยพร้อมเป็นพรรคหลักในการปกป้องสถาบันและจะส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตครบทั้ง 400 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ100คน ตามกฎหมาย แต่ยังไม่ได้ตั้งเป้าที่นั่งส.ส.เพราะทุกอย่างขึ้นกับประชาชน และการเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้

นายเสกสกล ระบุว่า ได้พูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ มาโดยตลอด และได้ไปพบพลเอกประยุทธ์ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยพลเอกประยุทธ์เข้าใจแนวทางการทำงานของแรมโบ้ไม่ว่าจะไปอยู่กับพรรคใด แต่ได้กำชับว่าขอให้คงจุดยืนปกป้องสถาบันหลัก และทำประโยชน์ให้ประชาชน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ไม่เคยขัดขวาง หรือไม่สนับสนุนการทำงานของแรมโบ้