“สมศักดิ์ เทพสุทิน”เตรียมรับนายกฯตรวจน้ำท่วม ลั่น“สุโขทัย”ไม่ใช่พื้นที่วัดพลัง ชี้“การเมืองแบบสุภาพบุรุษ จะไม่ตกปลาในอ่าง เตือน“เขียนวัวให้เสือกลัว เพราะถ้าเสือไม่กลัววัวก็ตายหมดฝูง”

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย และหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่วัดบ้านซ่าน อ.ศรีสำโรง เพื่อเตรียมความพร้อมและวางกำหนดการในการต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะมาตรวจติดตามสถานการณ์ “น้ำท่วม” และให้กำลังใจประชาชนในวันที่ 26 ก.ย. โดยช่วงเช้านายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่วัดบ้านซ่าน เพื่อให้กำลังใจชาวบ้าน มอบถุงธารน้ำใจ และมอบปัจจัยทางการเกษตร หญ้าแห้งพระราชทาน อาหารผสม TMR และถุงยังชีพ หลังจากนั้นจะนั่งรถสำรวจพื้นที่ความเสียหาย และเดินทางกลับ กทม.ในช่วงบ่าย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “น้ำท่วม”สุโขทัยในปีนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ที่แม่น้ำยมจะไหลลงมาจากทางจ.แพร่ ท่วมไม่นานจะลด แต่คราวนี้เป็นน้ำป่าที่ไหลมาจากทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาและมวลน้ำจากทางเหนือ ทำให้เกิดน้ำท่วมเสียหายในหลายพื้นที่ เช่น อ.เมือง อ.ศรีสำโรง ที่เป็นพื้นที่ท้องกระทะรับน้ำจากทุกด้าน โดย 3 วันก่อนได้มีการสำรวจความเสียหายพื้นที่การเกษตรกรรมเสียหายประมาณ 140,000 ไร่

ผู้สื่อข่าวถามว่าการมาลงพื้นที่ จังหวัดสุโขทัย ของนายกฯ หลายคนยังมองเรื่องการวัดพลังในพรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สุโขทัย ไม่ใช่พื้นที่วัดพลังอะไร เพราะมีความเสียหายจากน้ำท่วมจริงๆ การที่นายกฯลงพื้นที่มาเพื่อช่วยเหลือประชาชน และเป็นขวัญกำลังใจให้ชาวภาคเหนือตอนล่าง และนายกฯเองก็ตั้งใจจะไปอีกหลายจังหวัด

“การเมืองแบบสุภาพบุรุษ จะไม่ตกปลาในอ่าง ซึ่งตนก็ไม่นิยมตกปลาในอ่างหรือเขียนวัวให้เสือกลัว เพราะถ้าเสือไม่กลัววัวก็ตายหมดฝูง ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะแสดงพลังที่ จ.สุโขทัย ซึ่งตนขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อน “

ส่วนกรณีที่ต้องขี่หลังหนี”น้ำท่วม”นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร อย่าไปเขียนข่าวแบบนั้น ที่บ้านของตนมี”น้ำท่วม”ที่หน้าบ้าน ตอนเช้าเดินลุยน้ำมาขึ้นรถแล้วเป็นตะคริว ผู้ติดตามเลยมาช่วยพยุงเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร

สถานการณ์น้ำที่บ่ามาจากอ.ศรีสำโรงจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก และอ่างเก็บน้ำแม่รำพันล้นสปริลเวย์ เอ่อล้นเข้าพื้นที่ อ.เมืองสุโขทัย  บริเวณพื้นที่ ต.บ้านกล้วยและ ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย ล่าสุดมวลน้ำยังขยายวงกว้างและท่วมสูงหลายจุด ตลอดเส้นทางจากสะพานพระร่วงจนถึงวิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย ระดับน้ำสูง 20-50 เซนติเมตร  โรงพยาบาลสุโขทัยต้องใช้แผ่นเหล็กทำทางเข้า และใช้เรือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยรับส่งผู้ป่วยและผู้มาใช้บริการจากสี่แยกคลองโพ ทำให้ชาวบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนโดยเฉพาะ ที่ชุมชนคลองโพและชุมชนวัดคูหาสุวรรณน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 100 หลังคาเรือน บางจุดสูงถึง 1เมตร 50 เซนติเมตร ต้องสัญจรด้วยเรือเท่านั้น ส่วนถนนสายบายพาสตั้งแต่สะพานโตโยต้าถึงสี่แยกคลองโพระดับน้ำสูงถึง 50 เซนติเมตร สถานนีขนส่งเฉลิมพระเกียรติประชาชนไม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ ในขณะที่ทางจังหวัดยังคงแจ้งเตือนระดับน้ำจะสูงขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนน้ำในแม่น้ำยมขณะนี้มีระดับสูงในระดับเดียวกับน้ำจากคลองแม่รำพันที่ท่วมขัง ทำให้ไม่สามารถผันน้ำลงแม่น้ำยมได้ ที่สถานีวัดน้ำ Y 4 มีระดับสูง  6.50 เมตร  ซึ่งจังหวัดได้ผันน้ำจากประตูน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ออกไปทางฝั่งซ้ายออกไปทางอุตรดิตถ์และพิษณุโลก สำหรับน้ำจากแม่น้ำยมยังไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด

โดยภาพรวมของจังหวัดสุโขทัยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ทั้ง 9 อำเภอ 56 ตำบล 288 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตร 169,297 ไร่ บ่อปลา 1,326 ไร่ ถนน 118 สาย สะพาน 6 แห่ง ท่อระบายน้ำ 7 แห่ง ตลิ่ง/คันกั้นน้ำ 6 แห่ง ฝาย 9 แห่ง

สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยครั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะมาติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลจึงได้อนุมัติโครงการปรับปรุงคลองยม – น่าน จังหวัดสุโขทัย กรอบวงเงินไป 2,875 ล้านบาท ไปตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องน้ำในระยะยาวของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นโครงการ 5 ปี (ปี 2563 -2567) ในขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ และมีแล้วเสร็จไปบ้างแล้ว

โครงการดังกล่าว มีเป้าหมายให้สามารถรองรับน้ำที่ไหลผ่านอำเภอศรีสัชนาลัยได้สูงสุด1,400 ลบ.ม./วินาที ประกอบด้วยก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในลำน้ำสาขาและประตูระบายน้ำแม่น้ำยมในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนบนและตอนกลางเพื่อเก็บกักน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม ลดยอดน้ำของแม่น้ำยมตอนบนและตอนกลางที่จะไหลลงพื้นที่แม่น้ำยมตอนล่าง