กทม. ประกาศให้นั่งดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะในร้านอาหารมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA เท่านั้น ส่วนผับบาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด รอก่อน

ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) : ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 31/2564 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 45) ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้มีคำสั่ง กำหนดให้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และมีการกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติม คณะกรรมการ ฯ จึงเห็นชอบให้มีมาตรการผ่อนคลายสถานที่ให้สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) โดยเคร่งครัด รวมทั้งต้องมีมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร(Covid Free Setting) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ตามคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันพิจารณาและมีความห่วงใยในการเปิดให้บริการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน จึงขอให้ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มดำเนินการปรับปรุงสถานประกอบการให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่  เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเข้ารับการตรวจประเมินความพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ทางเว็บไซต์ thailandsha.com รวมทั้งเคร่งครัดช่วงเวลาการให้บริการให้อยู่ภายในเวลา 21.00 น. ตามที่กำหนด

สำหรับสถานที่ที่สามารถเปิดดำเนินการได้ ประกอบด้วย

  • สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์เด็กพิเศษ ให้สำนักอนามัย กทม. พิจารณาเปิดตามความเหมาะสม
  • ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ได้รับวัคซีนครบ และมีการสุ่มตรวจเจ้าหน้าที่ทุกสัปดาห์)
  • ร้านอาหาร/เครื่องดื่มทั่วไป เปิดให้บริการตามเวลาปกติ แต่อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของ ททท. และไม่เกินเวลา  21.00 น.
  • ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด เปิดให้บริการได้ตามเวลาปกติ
  • ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ทุกประเภท เปิดได้ โดยผู้ใช้บริการงดบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม และงดการจัดกิจกรรม
  • โรงภาพยนตร์ เปิดได้โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่ง
  • สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ทำเล็บ ร้านสัก เปิดให้บริการผ่านการนัดหมาย (ร้านสัก เฉพาะผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.)
  • สปา นวดแผนไทย ให้บริการเฉพาะนัดหมาย (เฉพาะการให้บริการประเภทใช้น้ำ ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.)
  • สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ำ กิจกรรมทางน้ำ เปิดได้
  • ยิม/ฟิตเนส ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัด หากมีการอบตัวหรืออบไอน้ำ ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.)
  • การใช้สนามกีฬาเพื่อการแข่งขัน ผู้เข้าชมต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.
  • โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม เปิดได้โดยห้ามบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จัดให้มีช่วงเวลาพักระบายอากาศ เตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด
  • ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ตามปกติ แต่งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัด
  • โรงมหรสพ โรงละคร ต้องแจ้งขอเปิดดำเนินการต่อสำนักอนามัย กทม.
  • โรงเรียนสอนมวย ศิลปะการต่อสู้ (ยิม) สถาบันลีลาศ ต้องแจ้งขอเปิดดำเนินการต่อสำนักอนามัย กทม.
  • สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก ศูนย์พระเครื่อง สนามพระเครื่อง สวนสัตว์ สถานที่จัดแสดงสัตว์ เปิดได้
  • สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง เปิดได้โดยห้ามบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จัดให้มีช่วงเวลาพักระบายอากาศ เตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด
  • สนามเด็กเล่น เครื่องเล่น ให้สำนักงานเขตพื้นที่พิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม

สำหรับสถานที่/กิจการที่สามารถเปิดได้ภายใต้มาตรการที่ทางราชการกำหนดและมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) โดยเคร่งครัด รวมทั้งต้องมีมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร(Covid Free Setting) มีดังนี้

สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร (ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.)

‼️สวนน้ำ สวนสนุก

สำหรับสถานที่ซึ่งยังคงให้ปิดดำเนินการ ได้แก่ ….สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต ตู้เกม สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ สนามชนโค สนามกัดปลา และสนามม้า

รวมทั้งห้ามการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มบุคคลเกิน 1,000 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสำนักอนามัย กทม.

เช็คที่เที่ยว กิน ดื่ม มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ของกทม. ได้ที่เว็บไซต์ thailandsha.com

มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ย่อมาจาก Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) เป็นโครงการความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย

สภา สมาพันธ์ และสมาคมต่างๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นผู้ดำเนินการตรวจประเมิน Checklist พร้อมรับรองผลการปรับปรุงสถานประกอบการตามมาตรฐาน SHA โดยแบ่งเป็น 10 ประเภทกิจกรรม ได้แก่ ประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร ประเภทโรงแรม/ที่พัก และสถานที่จัดประชุม ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว ประเภทยานพาหนะ ประเภทบริษัทนำเที่ยว ประเภทสุขภาพและความงาม ประเภทห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ประเภทกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทโรงละคร โรงมหรสพและการจัดกิจกรรม และประเภทร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ

ททท. เป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมการออกตราสัญลักษณ์ โดยมีการระบุหมายเลขของตราสัญลักษณ์ SHA ให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อบันทึกเป็นฐานข้อมูลรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ทั้งนี้ ททท. สามารถเพิกถอนตราสัญลักษณ์SHA ได้ในกรณีผู้ประกอบการไม่สามารถรักษามาตรฐานให้เป็นไปตามมาตรฐาน SHA

.

SHA เป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวโดยนักท่องเที่ยว ดังนั้นการตรวจสอบสถานประกอบการหรือกิจการที่ได้รับการอนุญาตให้เปิดบริการแล้ว การตรวจสอบ (Post Audit) จึงให้นักท่องเที่ยวหรือผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการให้ข้อเสนอแนะ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาต่อไปผ่านระบบออนไลน์ที่ ททท. จัดทำขึ้น และสุ่มตรวจสถานประกอบการโดยคณะกรรมการตรวจประเมิน

สำหรับสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA และมีบุคคลากรภายในสถานประกอบการได้รับวัคซีนเกินกว่า 70% แล้ว สามารถยื่นเอกสารและข้อมูลการรับวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อขอรับมาตรฐาน SHA Plusโดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.thailandsha.com/file/Handbook_SHA_Plus.pdf หากมีข้อคำถามสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง LINE Official Acount: @thailandsha

กทม.ขอเชิญผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ SHA สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการ

นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่ รัฐบาลมีแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้ารับการประเมินมาตรฐาน Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA)

ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับประสบการณ์ที่ดี และมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมการออกตราสัญลักษณ์ ให้แก่ผู้ประกอบการ

.

สำหรับสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ได้รับมาตรฐานSHA และ SHA Plus ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 29 ตุลาคม  2564 มีสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA จำนวนทั้งสิ้น 3,368 แห่ง แบ่งเป็น 10 ประเภท ดังนี้

▫️ ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 1,350 แห่ง

▫️โรงแรม ที่พัก โฮมสเตย์ จำนวน 657 แห่ง

▫️นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 51 แห่ง

▫️ยานพาหนะ จำนวน 315 แห่ง 

▫️บริษัทนำเที่ยว จำนวน 427 แห่ง

▫️สุขภาพและความงาม จำนวน 174 แห่ง

▫️ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า จำนวน 82 แห่ง

▫️กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 8 แห่ง

▫️การจัดกิจกรรมประชุม/โรงละคร จำนวน 63 แห่ง

▫️ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ จำนวน 180 แห่ง

รวมทั้งมีสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA Plus จำนวน 194 แห่ง ดังนี้ 

▪️ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 6 แห่ง

▪️โรงแรม ที่พัก โฮมสเตย์ จำนวน 150 แห่ง

▪️นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 1 แห่ง

▪️ยานพาหนะ จำนวน 4 แห่ง 

▪️บริษัทนำเที่ยว จำนวน 13 แห่ง

▪️สุขภาพและความงาม จำนวน 7 แห่ง

▪️ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า จำนวน 5 แห่ง

▪️กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 1 แห่ง

▪️การจัดกิจกรรมประชุม/โรงละคร จำนวน 1 แห่ง

▪️ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ จำนวน 6 แห่ง

สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับการประเมินได้ทางเว็บไซต์ https://www.thailandsha.com/index

บทความที่เกี่ยวข้อง