“วราวุธ”รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ยกกำลัง X เปิด“ชิงเก็บ ลดเผา” ปี 65 กรมป่าไม้จัดเต็มเชิงรุกป้องกันไฟป่าภาคเหนือ

ที่จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 15 ม.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการชิงเก็บ ลดเผา และเปิดยุทธการป้องกันไฟป่าประจำปี 2565 ณ อ่างเก็บน้ำวังเฮือ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส.พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ทส. ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ -เอกชน ตลอดจนเครือข่ายความร่วมมือป้องกันไฟป่าเข้าร่วมงาน

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวต้อนรับ โดยมีนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน  ภายหลังพิธีเปิด นายวราวุธ พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมไฟป่า พร้อมเปิดยุทธการป้องกันไฟป่า โดยทำพิธีปล่อยกำลังพลเพื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่ และร่วมชิงเก็บใบไม้ในพื้นที่  ซึ่งงานในครั้งนี้ได้ถ่ายทอดสดผ่านระบบ Video Conferences ให้หน่วยงานในสังกัด ทส. ในท้องที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ 

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดให้ปี 65 เป็นปีแห่งการฟื้นฟูและการปรับตัวทุกมิติ สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน เพิ่มสมรรถนะปรับแนวคิดและระบบในการทำงานแบบใหม่ สร้างการรับรู้ความเข้าใจและการทำงานแบบ   มีส่วนร่วมกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนทำงานแบบใหม่ ทส. ยกกำลัง X โดยให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาไฟป่า ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมป่าไม้ได้เน้นดำเนินการด้วยการใช้มาตรการเชิงรุก ซึ่งโครงการชิงเก็บ ลดเผา และการเปิดยุทธการป้องกันไฟป่าของกรมป่าไม้

ในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในแนวทางการทำงานเชิงรุก ที่เน้นการประสานงานกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างยั่งยืน

“ สำหรับสถานการณ์ไฟป่า ปีงบประมาณที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินงานของกรมป่าไม้ถือว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ดั่งสถิติจุดความร้อนจากภาพถ่ายดาวเทียม Suomi NPPเซ็นเซอร์ VIIRS พบว่า ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.ถึง 31 พ.ค. มีจุดความร้อนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 30,293 จุด เป็นปริมาณที่ลดลงถึง 26,036 จุด เมื่อเทียบกับปี 63 และหากย้อนกลับไปเทียบกับปี 62 พบว่ามีจุดความร้อนลดลงถึงร้อยละ 46.22”

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ในปี 65 กรมป่าไม้ได้เตรียมความพร้อมในการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ความรับผิดชอบ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งมีพื้นที่รวม 42.09 ล้านไร่ ตามมาตรการที่ 1  การเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมไฟป่าเชิงพื้นที่ ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและควบคุมไฟป่า ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1.การเตรียมการ ช่วงวันที่ 1 ต.ค.- 31 ธ.ค. เช่น  จัดโครงสร้างหน่วยงาน, จัดทำแผนการปฏิบัติงาน/แผนเผชิญเหตุ, กำหนดพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า,จัดประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติงาน, การประชาสัมพันธ์เชิงรุกทุกรูปแบบ เป็นต้น

 2.รับมือ ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 พ.ค. โดยแบ่งเป็น ช่วงก่อวิกฤตในเดือนมกราคม ดำเนินการจัดตั้ง War room  กรมป่าไม้/ส่วนหน้า/สำนักฯ, จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า, รายงานผลสถานการณ์ประจำทุกวัน, จัดชุดลาดตะเวนตรวจหาไฟ/จุดสกัด, แจ้งจุดความร้อน/จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เข้าตรวจสอบ/ควบคุมไฟป่า และช่วงวิกฤต ในเดือนก.พ.ถึงพ.ค.เน้นบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด, จัดกิจกรรมวันปลอดควันพิษจากไฟป่า, การประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง, การบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยการชิงเก็บอย่างต่อเนื่อง, การสนธิกำลังอุปกรณ์ ฯลฯ ในพื้นที่วิกฤติ และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดนผ่านกลไกอาเซียน

 และ3 ประเมินผลและสร้างความยั่งยืน ช่วงวันที่ 16 พ.ค. – 30 ก.ย. เช่น วิเคราะห์พื้นที่ไฟไหม้ป่า, ออกประกาศกรมป่าไม้ เรื่อง ห้ามเข้าบุกรุกยึดถือครอบ ครองพื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้, การตรวจสอบไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้, การจัดทำแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ และสรุปผลการดำเนินงานและถอดบทเรียน (AAR) เป็นต้น

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวว่าในปี 65 ได้มอบหมายให้กรมป่าไม้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการป้องกันและควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยจัดเตรียมกำลังพลประกอบด้วย นปพ. (พิทักษ์ป่า) 520 คน และเหยี่ยวไฟ 135 คน เพื่อประจำในจุดต่าง ๆ ตามแผนที่กำหนด สำหรับในส่วนโครงการ”ชิงเก็บ ลดเผา” ที่กรมป่าไม้ดำเนินการในปีนี้ มีเป้าหมายชิงเก็บ 1,500 ตัน และชิงเผา 155,000 ไร่  อีกทั้งยังดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามโครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ 65 ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมป่าไม้ใน 10 จังหวัดภาคเหนือ รวมพื้นที่ 289,383 ไร่ เป้าหมายเพื่อป้องกันไฟป่าลุกลามเข้าโครงการฯ และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบจิตอาสา

ขณะที่ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า  ได้ให้การสนับสนุน “จิตอาสา” ภายใต้โครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า ร่วมกันดำเนินกิจกรรมจิตอาสา“เราทำความดีด้วยหัวใจ ชิงเก็บ ลดเผา ป้องกันไฟป่า” โดยให้จิตอาสาที่ผ่านการฝึกอบรมฯ เป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ และเป็นผู้นำ

ในการทำกิจกรรม “เราทำความดีด้วยหัวใจชิงเก็บลดเผา ป้องกันไฟป่า” เพื่อทำกิจกรรมชิงเก็บร่วมกับ ประชาชนจิตอาสาที่เป็นสมาชิกเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า ปี พ.ศ. 2565  ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยกรมป่าไม้ให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรม.