หมอปลายันขออนุญาตเจ้าอาวาสก่อนค้นวัด  พร้อมพิสูจน์ตัวเองต่อศาล มีหลักฐานทุกขั้นตอนการทำงาน หลังกรรมการวัดขู่แจ้งความบุกรุกกุฏิวัดโนนไทย

วันที่ 4 พฤษภาคม เวลาประมาณ 22.00 น. นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ได้ไลฟ์สดทางเพจFBหมอปลา ปลากระป๋อ. Dr.P หัวข้อ “โดนอีกแล้วหมอปลา”  โดยได้เล่าถึงกรณีที่เขา ทนายนายไพศาล เรืองฤทธิ์ สื่อมวลชนและทีมงานเข้าไปในวัดวัดโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อไปช่วยเหลือ ถามข้อเท็จจริงเรื่องมีการกระทำชำเราหญิงสาว ซึ่งเข้าไปดีๆ แต่วันนี้มีข่าวว่า มีชาวบ้านร่วมตัวกัน กล่าวหาว่าหมอปลาไปบุกวัด จะมีการแจ้งความดำเนินคดี

หมอปลายืนยันว่า ก่อนเข้า ค้นกุฏิวัดได้ขออนุญาตจากเจ้าอาวาสอย่างถูกต้อง โดยท่านอนุญาต และมีพระไปตรวจค้นวัดด้วย มีหลักฐานเจ้าอาวาสอนุญาต ทำตามกระบวนการ พฤติกรรมไม่ดีของพระที่ถูกต้องร้องเรียนไม่เกี่ยวกับวัด วัดไม่รู้เรื่อง พร้อมไปพิสูจน์ที่ศาล นักข่าวถ่ายภาพทุกขั้นตอนการทำงานไว้เป็นหลักฐาน แต่การปลุกระดมหรือใครทำให้หมอปลาเสียหาย หมอปลาก็มีสิทธิปกป้องตัวเอง

          “ผมปกป้องพระพุทธศาสนา เราทนไม่ได้ที่มีคนเอาไปเป็นช่องทางทำมาหากิน ผมได้รับร้องเรียนมา ผมถามว่า ผมเจอพระมัวสีกา มีใครบ้างยอมรับได้ ลงพื้นที่แต่ละครั้งเสี่ยงคุก เสี่ยงตะราง แต่เราก็พร้อมแลก ทีมหมอปลา ช่วยปกป้องศาสนา เรายอมเสี่ยง เพื่อปกป้องพระพุทธ เราไม่ได้อะไร แต่เราได้ปกป้องพระพุทธศาสนา เราต้องการให้คนเหล่านั้นไปหุงข้าวกินเองบ้าง อย่ารอแต่ชาวบ้านหุงข้าวให้” หมอปลา กล่าว

หมอปลา ยังได้เสนอให้มีการออกกฎหมายเอาผิดกับพระหรือนักบวชที่ทำผิดต้องถูกลงโทษติดคุก ติดตะราง ไม่ใช่แค่จับได้ว่า มัวสีกาก็แค่สึก

          “เราไม่ได้มาทำลายศาสนา ผมกำลังปกป้องพุทธศาสนา เข้าใจนะครับ และก็ฝากถึงคนที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับหมอปลา ต้องทำนะครับ ออกข่าวแล้ว ต้องทำ อย่าเอาแค่เป็นข่าว ต้องทำนะครับ ถ้าไม่ทำก็ผิดศีล อย่าเอากฎหมายมาขู่ผม เพื่อไม่ให้ผมปกป้องพระพุทธศาสนาเพราะผมเชื่อว่าเจตนาของหมอปลา ทุกคนรู้ว่าทำอะไร”

“ผมไม่ได้มาตบทรัพย์ ผมไม่ได้มาเรียกผลประโยชน์กับใคร และก็ไม่มีใครสามารถเอาเงินมาหยัดปากหมอปลาได้ ยกเว้นวัดที่หมอปลาตายเอาเงินเหรียญบาท เหรียญห้าบาท มาหยัดปาก เรียกว่าเงินปากผี แต่ถ้าตราบใดหมอปลายังไม่ตาย เงินไม่สามารถปิดปากหมอปลาได้  เราเคารพคนดีครับ เราเคารพสถานที แจ้งความวันไหนก็จะไปหาวันนั่น”

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลาง เดินทางมาที่วัดโนนไทย อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา จากกรณีที่ “นางใบเตย” อายุ 43 ปี หญิงสาวรายหนึ่งใน จ.นครราชสีมา มาร้องขอความช่วยเหลือจาก “หมอปลา” หรือ นายจีรพันธ์ เพชรขาว ฉายามือปราบสัมภเวสี โดยเธออ้างว่าถูก “พระชาคริต” อายุ 47 ปี ที่อยู่ใกล้บ้าน ได้เดินมาหาที่บ้านก่อนลวงข่มขืน เหตุการณ์นี้ทำให้หญิงรายดังกล่าวมีอาการป่วยโรคซึมเศร้ากำเริบอีก

เพื่อตามหาพระชาคริต ภายในวัดโนนไทย พร้อมบุกเข้าค้นกุฏิ 3 ชั้น พระสงฆ์ทุกห้อง รวมไปถึงห้องน้ำวัดและบริเวณวัด ที่คาดว่าพระชาคริต จะหลบซ่อน  

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม กรรมการวัดโนนไทยและชาวบ้านกว่า 100 คน ได้มารวมตัวกันพร้อมตระโกนเสียงดังสนั่นว่า (หมอปลา ต้องมาขมา หลวงพ่อจอย) เพราะไม่พอใจการบุกเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ เนื่องจากว่าหลวงพ่อจอย เป็นพระผู้ใหญ่ อีกทั้งหมอปลาและคณะสื่อมวลชน ก็บุกค้นกุฏิ 3 ชั้น ทุกห้อง รวมไปถึงบริเวณวัดด้วย คล้ายกับเจ้าหน้าที่ตามหาคนร้าย และที่สำคัญไม่มีการถอดรองเท้า จึงอยากให้มาขอโทษ พร้อมเตรียมหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีหมอปลาในข้อหาบุกรุก โดยไม่มีการแจ้งให้กับคณะกรรมการวัดได้ทราบ เนื่องจากวัดเป็นนิติบุคคล จะทำอะไร จะต้องแจ้งก่อน ไม่ใช่ถือวิสาสะบุกรุก ส่วนจะมาตามหาพระชาคริต ทางชาวบ้านและคณะกรรมการวัดไม่ได้ห้าม แต่ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอน การบุกรุกแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติสถานที่

นายพยุง กิกสันเทียะ กล่าวว่า หลังจากนี้จะหารือกับคณะกรรมการวัด เพื่อเตรียมหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีหมอปลาในข้อหาบุกรุก เนื่องจากวัดเป็นนิติบุคคล จะทำอะไรจะต้องแจ้งก่อน ไม่ใช่ถือวิสาสะบุกรุก ส่วนจะมาตามหาพระชาคริตที่ถูกกล่าวหาว่าขืนใจ หญิงสาวนั้น ทางชาวบ้านและคณะกรรมการวัดไม่ได้ห้าม แต่ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอน การบุกรุกแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติสถานที่

ด้านพระนอง พระลูกวัดที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า อาตมากำลังจำวัดอยู่ในขณะนั้น ได้ยินเสียงคนจำนวนมากส่งเสียงดัง พร้อมกับเคาะประตูห้องพระสงฆ์เสียงดังสนั่นทุกห้อง จึงเปิดประตูออกมาดู เห็นคนขึ้นมาเต็มกุฏิ เหมือนกำลังตามหาคน ซึ่งเห็นครั้งแรกคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับผู้ร้าย แต่พอสังเกตดีๆ ได้ตามหาพระรูปหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าพระรูปนี้อยู่ที่ไหน แต่คิดว่าการบุกค้นกุฏิสงฆ์แบบนี้ไม่เหมาะสม