“อนุชา” หนุนกองทุนหมู่บ้านยกระดับด้วย BCG สร้างชุมชนเข้มแข็ง

“อนุชา” ลงอุบลฯ เปิดโครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านชุมชน หนุนกองทุนหมู่บ้านฯ เดินหน้าสร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง ดึง BCG Model พัฒนาเศรษฐกิจใหม่ เน้นคุณภาพและความยั่งยืน สอดรับนโยบายรัฐ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังเป็นประธานเปิด โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน จ.อุบลราชธานี ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยมี นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผวจ.อุบลราชธานี นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเบญพล นาคประเสริฐ ผอ.สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พร้อมสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ร่วมกิจกรรม ว่า โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ยกระดับชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็ง มุ่งหวังให้สามารถสร้างรายได้ พัฒนาอาชีพผ่านการกลไกการสนับสนุนของกองทุนหมู่บ้านฯ

“การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้าน จะเป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มแหล่งเงินทุนหมุนเวียน ที่จะเข้ามาสนับสนุนโครงการของชุมชน เพื่อการพัฒนาความเข้มแข็งในระดับชุมขน ทั้งด้านการกระตุ้นให้เกิดการออม การบริหารจัดการเงินที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความมั่นคงในครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง และเพื่อเป็นทุนสำหรับต่อยอดอาชีพ สร้างรายได้ ลดภาระค่าใช้จ่าย สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง”นายอนุชา กล่าว

ทั้งนี้ ทิศทางของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง เน้นที่จะยกระดับพัฒนาอาชีพ ให้เป็นไปตามโมเดล “BCG Economy Model” ที่เน้นความสำคัญเศรษฐกิจสีเขียว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ส่งเสริมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยนำหลัก BCG มาปรับใช้ให้เกิดการพัฒนา เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ประชาชนมีรายได้ดี คุณภาพชีวิตดี โดยควบคู่ไปกับการรักษาและฟื้นฟูทรัพยากร จากความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพที่ดี ด้วยการใช้ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” ผ่านกลไกของกองทุนฯ


สำหรับความก้าวหนฃาของการดำเนินงาน โดยโครงการได้จัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนใน 2 หมู่บ้าน ของพื้นที่ จ.อุบลฯ ที่ประสบความสำเร็จในด้านการบริหารจัดการกองทุน ประกอบด้วย กองทุนหมู่บ้านไชยชนะ ต.โนนสวาง อ.กุดข้าวปุ้นและกองทุนหมู่บ้านนาพิน ต.นาพิน อ.ตระการพืชผลซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามแนวทางของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง สามารถต่อยอดและสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง
จากการเยี่ยมชม “กองทุนหมู่บ้านไชยชนะ” พบเป็นกองทุนที่มีศักยภาพในด้านการบริหารจัดการกองทุนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในหมู่บ้าน จนได้รับรางวัลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง อันดับที่ 3 มีการดำเนินโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็น โครงการส่งเสริมการออมและการกู้ยืมเงินออม โครงการปั๊มน้ำมันยอดเหรียญ และโครงการโรงน้ำดื่มชุมชน ทำให้มีรายได้เพิ่มโดยพึ่งพาอาศัยระหว่างกันในชุมชนและชุมชนใกล้เคียง


ขณะที่ “กองทุนนาพิน” ที่ได้รับรางวัลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง อันดับที่ 1 เป็นกองทุนที่ดำเนินกิจการในรูปแบบ สถาบันการเงินชุมชน โดยมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เป็นผู้มาวางระบบการบริหารธุรกิจภายในชุมชน ทั้งด้านเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสังฆภัณฑ์ ที่จะผลิตตามคำสั่งซื้อ ส่วนการดำเนินการโครงการโรงน้ำดื่ม บรรจุขวด อยู่ระหว่างการขอใบรับรองจากสำนักงานอาหารและยา (อย.) และยังได้ติดตั้งตู้น้ำดื่มยอดเหรียญ เพื่อให้บริการน้ำดื่มสะอาดกับชุมชน เป็นการช่วยส่งเสริมสุขอนามัยอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ยังเป็นการพัฒนาชุมชนตัวอย่างที่พร้อมขยายผล สู่เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านอื่นๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ให้สอดรับ กับชุมชนของตัวเอง เพื่อยกระดับการออม เสริมสร้างรายได้นอกเหนือจากอาชีพหลักที่มีอยู่ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านทุนทรัพย์ สุขอนามัยและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็ง ลดภาระหนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังมีสัดส่วนที่สูง นำไปสู่การยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในระดับชุมชน สู่ระดับจังหวัด เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี.