นายกรัฐมนตรีประกาศขับเคลื่อน EEC ผลักดันให้เกิดการลงทุนจริง เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศในอนาคต เล็งจัดมหกรรมจัดหางาน EEC Job and Skill Expo ในพื้นที่ EEC ในเร็วๆ นี้

นายกรัฐมนตรีประกาศขับเคลื่อน EEC ผลักดันให้เกิดการลงทุนจริง เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศในอนาคต เล็งจัดมหกรรมจัดหางาน EEC Job and Skill Expo ในพื้นที่ EEC ในเร็วๆ นี้

วันนี้ เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 4/2563  โดยย้ำผลักดันให้เกิดการลงทุน เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศในอนาคต  นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อพบปะนักลงทุนไทยและต่างประเทศ และติดตามแนวทางการเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังกับนานาชาติที่ผ่านมา เห็นถึงโอกาสและศักยภาพไทยในการสร้างความเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมครอบคลุมบก น้ำ อากาศ  ให้ไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ภายในภูมิภาค รวมทั้งระหว่างภูมิภาคอีกด้วย โดยนายกรัฐมนตรีเน้นในที่ประชุมว่า “รัฐบาลจริงจังต่อการขับเคลื่อน EEC ต้องผลักดันให้เกิดการลงทุน วางแผนอนาคต สร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศในอนาคตให้เกิดขึ้นได้จริง”

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลจริงจังในการขับเคลื่อนการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งการลงทุนในพื้นที่ EEC ทั้งในช่วงก่อน ระหว่างการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมทั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 ทุกหน่วยงานต้องเร่งสื่อสารและสร้างการรับรู้ ร่วมกันเดินหน้าตามแผนการลงทุน โดยเน้นความโปร่งใส สร้างความสมดุลในการลงทุนทั้งการดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยขณะเดียวกันต้องไม่ลืมนักลงทุนไทยที่มีศักยภาพพร้อมที่จะลงทุนเองหรือร่วมลงทุนกับต่างประเทศด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรียังเห็นว่า การพัฒนา “คน” สำคัญที่สุด ต้องยกระดับและปรับฝีมือแรงงาน (Re-skill) เตรียมความพร้อมแรงงานเพื่อรองรับการลงทุนและความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมทั้งให้สอดคล้องกับอนาคตของประเทศ  ซึ่งที่ประชุมยังได้รับทราบ การเตรียมจัดมหกรรมจัดหางาน หรือ  EEC Job and Skill Expo ในพื้นที่  EEC ในเร็ว ๆ นี้ด้วย

ทั้งนี้  ที่ประชุมได้รับทราบเห็นชอบวาระสำคัญ ได้แก่ แนวทางการเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังกับนานาชาติ ซึ่งประกอบด้วยโครงการท่าเรือบก (Dry port) ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณสินค้าเข้าท่าเรือแหลมฉบังได้ถึง 2 ล้านตู้สินค้า/ปี  โครงการเชื่อมอ่าวไทยและอันดามัน (ท่าเรือชุมพร ท่าเรือระนอง Land Bridge) เพิ่มศักยภาพท่าเรือน้ำลึกทั้งสองแห่ง ช่วยลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า และโครงการสะพานไทย เพื่อเชื่อมโยงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC กับเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้ SEC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะสร้างประโยชน์ทั้งในเชิงการท่องเที่ยวและลดต้นทุนการขนส่งสินค้าระหว่างภาคใต้และท่าเรือแหลมฉบังด้วย

โอกาสนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบแต่งตั้งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานอนุกรรมการบริหารใน กพอ. และแต่งตั้งนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กพอ.ด้วย

โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรีได้เปิดเผยในช่วงท้ายว่า นายกรัฐมนตรียังได้ฝากข้อคิดเห็นแก่ที่ประชุม โดยย้ำถึงการดูแลเกษตรกรและประชาชนที่อยู่รอบด้านและในพื้นที่ EEC สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่ในการพัฒนา เพราะรัฐบาลต้องการเดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรไทยด้วย �

ใหม่ อิทธิพันธ์ บัวทอง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย อดีตบรรณาธิการบริหารข่าวช่อง 8 RS mall หมายเลข 27 , อดีตบรรณาธิการบริหารสถานีโทรทัศน์ true4U ดิจิตอลทีวี, กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย อดีตผู้อำนวยการข่าว PostTV, อดีตบรรณาธิการข่าว TPBS อดีตรองผู้อำนวยฝ่ายข่าว TNN24 อดีตบรรณาธิการข่าวการเมืองสถานีข่าว TNN24 และASTV  อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์วัฏจักร