นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับผู้ที่ขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และผู้ที่กระทำอื่นใดในลักษณะที่เป็นการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดโดยไม่ละเว้น
“ถือว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมนี้เป็นการชุมนุมโดยไม่สงบ เป็นการบ่อนทำลายการบริหารราชการแผ่นดิน และความสงบสุขของประชาชน”
เวลา 23.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมเพราะเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ยุติตั้งแต่เวลา 22.00 น.แล้ว แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีการปฏิบัติ ขอย้ำให้ยุติการชุมนุมอีกครั้งในเวลา 24.00 น.
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ระบุว่า หลายกลุ่มมีการละเมิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ได้มีคำสั่งให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมก่อน 22.00 น. เวลาล่วงเลยมาแล้ว ขอเตือนอีกครั้งให้ยุติการชุมนุม มิฉะนั้นจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เมื่อมีการฝ่าฝืนคำสั่งและยังมีประกาศประกาศค้างคืน ถือว่าเป็นการจงใจขัดขืนต่อคำสั่งของเจ้าพนักงาน จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนจะรูปแบบไหนจะต้องพิจารณาจากองค์ประกอบที่เกิดขึ้น
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า โฆษกรัฐบาลประกาศแล้วดำเนินการถึงที่สุดโดยไม่มีการละเว้น
ก่อนหน้านี้เวลา 22.45 พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา โพสต์เฟซบุ๊ก มาร่วมปกป้องพระเจ้าอยู่หัว พระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ด้วยกัน”เรียนพสกนิกรผู้จงรักภักดีที่พร้อมถวายอารักขาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จากทุกภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน เดินทางมารวมพลที่ ถ.แจ้งวัฒนะ หน้า รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป
“ผมจะจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว กองทัพประชาชนเพื่อพร้อมเผชิญเหตุเบื้องต้นก่อน ในระหว่างที่การเตรียมระดมพลในพื้นที่นอก กทม.อาจยุ่งยากในค่ำคืนนี้และต้องใช้เวลา”
กลุ่มคณะราษฎรนัดชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเดิมทีนัดชุมนุมเวลา 14.00 น. แต่เนื่องจากเกรงว่าจะมีการชิงพื้นที่ชุมนุม จึงเลื่อนเวลานัดเป็นเวลา 08.00 น. ให้มารวมกลุ่มกันที่หน้าบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
แต่อีกด้านหนึ่ง ยังมีการนัดรวมตัวกันของประชาชนอีกกลุ่ม อาทิกลุ่มของอดีตพระพุทธอิสระ, กลุ่มนายสิระ เจนจาคะ, กลุ่ม นพ.เหรียญทอง แน่นหนา, กลุ่มของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ, และกลุ่มไทยภักดี นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม
สำหรับไทม์ไลน์ของการชุมนุมคณะราษฎร
08.00 น. ประชาชนเริ่มทยอยเข้าพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อจับจองพื้นที่การชุมนุม
10.45 น. รถขยายเสียงของตำรวจได้เข้ามาบริเวณพื้นที่ชุมนุม จากนั้นเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเล็กน้อย ต่อมารถขยายเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคลื่อนออกไป
10.57 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เดินทางเข้ามายังรถขยายเสียงของผู้ชุมนุม เพื่อขอเจรจา เเต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมเจรจาด้วย จากนั้นเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย เเต่เหตุการณ์ไม่บานปลาย
13.15 น. มวลชนทั้ง 2 ฝั่ง ปักหลักอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เกิดเหตุการณ์ชุลมุน ซึ่งแกนนำที่กำลังปราศรัย ได้ประกาศขอผู้ชุมนุมอย่าใช้ความรุนแรง ซึ่งระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้พยายามแยกทั้ง 2 ฝั่งออกจากกัน
13.30 น. ผู้ชุมนุม เข้าไปเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่อยู่โดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ออกมาวางเรียงบนถนนราชดำเนิน จากนั้นผู้ชุมนุม เข้ายึดพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
14.20 น. แกนนำกลุ่มคณะราษฎร ประกาศเคลื่อนขบวนมวลชน มุ่งหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
14.35 น. ผู้ชุมนุม ประจันหน้ากับตำรวจ ที่ตรึงกำลังสกัดกั้นอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยผู้ชุมนุมมีการเจรจาขอให้เปิดทาง
15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณ แยกเทวกรรม กลุ่มผู้ชุมนุมรอนานกว่า 30 นาที ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนผ่านแนวกั้น ของเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จ
15.45 น. ด้านหน้าบริเวณทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมากั้นไว้ที่หน้าทำเนียบ
17.05 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเรียกร้องให้ตำรวจเปิดทางอีกครั้ง พร้อมร้องเพลงปลุกใจและชูดอกกุหลาบสีแดง
17.39 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ตำรวจเปิดทาง พร้อมก้าวเดินครั้งละ 2 ก้าว บริเวณหน้า มทร.พระนคร เขตอุดมศักดิ์
17.41 น. รถบัสตำรวจถอยร่นไปอีก 50 เมตร
17.50 น. กลุ่มแกนนำและผู้ชุมนุม เคลื่อนขบวนอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล
18.00 น. กลุ่มแกนนำและผู้ชุมนุม เดินทางถึงบริเวณทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ตำรวจได้ตั้งแถวพร้อมแผงเหล็กสกัดบนสะพานชมัยมรุเชฐ
18.15 น. กลุ่มแกนนำและผู้ชุมนุม เดินทางถึงด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล
หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มายังทำเนียบรัฐบาลได้สำเร็จ ผู้ชุมนุมได้ปักหลักชุมนุมอยู่บนถนนพิษณุโลกบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล โดยการชุมนุมได้กินพื้นที่บนถนนพิษณุโลก ตั้งแต่ช่วงแยกสะพานชมัยมรุเชฐ ไปจนถึงแยกถนนพิษณุโลกตัดราชดำเนินกลาง และมีการตั้งเวทีปราศรัยขึ้น
นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า “คณะราษฎร 63” ได้ประกาศกับกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ได้เดินทางถึงเส้นชัยแล้ว ที่บริเวณแยกสวนมิสกวัน ข้างทำเนียบรัฐบาล หลังใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงเจรจาขอผ่านแยกนางเลิ้ง ถนนพิษณุโลกจนสามารถฝ่าแนวกั้นและรถบัสของตำรวจตชด.
เคลื่อนขบวนในเวลา 18.00 น. เลี้ยวซ้ายผ่านแยกนางเลิ้ง ไปจนถึงสะพานชมัยมรุเชษ มุ่งหน้านำมวลชนฝ่าด่านผ่านด้านข้างทำเนียบรัฐบาล
จนกระทั่งในเวลา 18.40 น. แกนนำได้สั่งให้ผู้ชุมชนปักหลักค้างคืนตั้งแต่ที่บริเวณแยกมิสกวันยาวไปจนถึงแยกนางเลิ้ง พร้อมตั้งเต๊นท์ เตรียมตัว ปูเสื่อนอนค้างคืนชุมนุมยืดเยื้อจนกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรัฐมนตรีจะลาออกจากตำแหน่ง
ใหม่ อิทธิพันธ์ บัวทอง
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย อดีตบรรณาธิการบริหารข่าวช่อง 8 RS mall หมายเลข 27 , อดีตบรรณาธิการบริหารสถานีโทรทัศน์ true4U ดิจิตอลทีวี, กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย อดีตผู้อำนวยการข่าว PostTV, อดีตบรรณาธิการข่าว TPBS อดีตรองผู้อำนวยฝ่ายข่าว TNN24 อดีตบรรณาธิการข่าวการเมืองสถานีข่าว TNN24 และASTV อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์วัฏจักร