นายกฯ สั่งการเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น เน้นหนี้ครัวเรือน ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน

บ่ายวันนี้ (15 ก.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมครม.เศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2567 โดยนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจำเป็นต้องใช้เวลา ไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างทันที รัฐบาลมุ่งให้ความสำคัญแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อบรรเทาความเดือดของประชาชน โดยเฉพาะจากปัญหาหนี้ครัวเรือน และรับฟังรายงานสถานการณ์หนี้ 3 เสาหลักของเศรษฐกิจ คือ หนี้ครัวเรือน หนี้ SMEs ภาคธุรกิจ และหนี้รัฐบาล

สำหรับมาตรการแก้ปัญหาหนี้ที่ประชุมรับทราบมาตรการแก้ปัญหา ดังนี้
1) การปรับโครงสร้างหนี้ที่อยู่อาศัย เพิ่มระยะเวลาการกู้ถึงอายุ 80 – 85 ปี คาดว่ามาตรการนี้ จะทำให้หนี้เสียและหนี้กำลังจะเสียทยอยลดลง โดยขอความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์ในการปรับโครงสร้างหนี้
2) มาตรการแก้ปัญหาหนี้รถยนต์ ระยะสั้นเร่งหามาตรการช่วยคนที่ใช้รถจักรยานยนต์และรถปิคอัพทำงานหากินที่กำลังจะถูกยึดเป็นอันดับแรก เพื่อจะได้มีรถในการทำงานหากิน

3) มาตรการแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิต ซึ่งจากข้อมูลมีบัตรเครดิตทั้งหมด 24 ล้านบัตร เป็นหนี้เสียแล้ว 1.1 ล้านบัตร และกำลังจะเสียอีก 2 แสนบัตร นายกฯ มอบหมายให้ ธปท. หารือกับธนาคารพาณิชย์ กำหนดแนวทางช่วยเหลือให้เกิดเป็นรูปธรรมภายใน 2 สัปดาห์ และแถลงให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
4) มาตรการแก้ปัญหาหนี้สินรายย่อย (ธ.ออมสิน) ให้ดำเนินการยกหนี้ลูกหนี้รายย่อย ปรับโครงสร้างหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ครู ลด/ตรึงดอกเบี้ยช่วยลูกหนี้ทุกราย และจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์เข้ามาช่วยเหลือลูกหนี้ด้อยคุณภาพ เป้าหมาย 456,000 บัญชี มูลค่า 33,900 ล้านบาท

5) มาตรการแก้ปัญหาหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
6) โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 11 (บสย.) จากมติ ครม.อนุมัติ วงเงินค้ำประกัน 50,000 ล้านบาท จะช่วย SMEs ได้สินเชื่อกว่า 77,000 ราย สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกว่า 200,000 ล้านบาท สร้างสินเชื่อในระบบกว่า 60,000 ล้านบาท และรักษาการจ้างงานไม่น้อยกว่า 550,000 ตำแหน่ง
7) มาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ดำเนินการดึงหนี้นอกระบบให้กลับเข้ามาอยู่ในระบบ ยึดหลักการเดียวกับ PICO Finance และออกใบอนุญาตให้เจ้าหนี้นอกระบบกลับใจ ทำ Credit Scoring ใหม่สำหรับกลุ่มคนเปราะบาง และ SMEs

ภายหลังรับฟังรายงานสถานการณ์ปัญหาเศรษฐกิจและรับทราบมาตรการแก้ปัญหา นายกฯ สั่งการต่อที่ประชุม ดังนี้ 1. เร่งแก้ไขเรื่องหนี้บ้าน และขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมแก้ไขปัญหา 2. เร่งแก้ไขเรื่องหนี้บัตรเครดิต และขอความร่วมมือบริษัทบัตรเครดิตเข้าร่วมแก้ไขปัญหา 3. เร่งแก้ไขหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยให้แจ้งยืนยันผู้มีสิทธิได้รับเงินคืน และผู้ที่มีหนี้ลดลง 4. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปพิจารณาความเดือดร้อนของเกษตรกรในด้านต่าง ๆ เพื่อนำกลับมาเสนอในครั้งต่อไป 5. ให้เข้มงวดกวดขันเรื่องสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และ 6. เร่งรัดโครงการลงทุนที่อยู่ในกระบวนการของ BOI เพื่อให้โครงการลงทุนเกิดเป็นเม็ดเงินจริงลงสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว