ดร.สุชัชวีร์ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ปชป.ชี้เลือกครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเลือกผู้ว่าฯ แต่เป็นการเลือกอนาคตลูกหลาน มั่นใจเปลี่ยนกรุงเทพฯได้

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นตัวแทนผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ของพรรค โดยหลังจากที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์มีมติให้ดร.สุชัชวีร์ เป็นตัวแทน ในบ่ายวันเดียวกันได้มีการจัดแถลงข่าวเปิดตัวภายใต้ชื่องาน ‘เปลี่ยนกรุงเทพฯ’ และใช้แฮชแท็ก #เราทำได้ ซึ่งมีแกนนำ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) ร่วมงานกันอย่างพร้อมเพียง

ดร.สุชัชวีร์ เปิดตัวภายใต้ชุดสูทลำลองกับรองเท้าผ้าใบ และยังมีบิดา-มารดา รวมถึงภรรยา มาร่วมงาน ก่อนนั่งลงกราบที่ตักของ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และบิดา-มารดา พร้อมสวมกอดภรรยา ก่อนขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ยืนยันความตั้งใจกว่า 30 ปีที่ต้องการเปลี่ยน กทม. เชื่อว่าจะสามารถทำได้

ดร.สุชัชวีร์  เริ่มแถลงเปิดตัวด้วยการบอกเล่าประวัติตัวเองตั้งแต่เป็นเด็กต่างจังหวัด และเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกทม.ต้องเผชิญกับปัญหารถติด น้ำท่วม จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องการเข้ามาแก้ปัญหาให้กับ กทม. โดยการสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งจะใช้ประสบการณ์ที่เรียนวิศวกรรมโยธามาแก้ปัญหาผ่านโปรเจกต์ก่อนจบการศึกษา ซึ่งก็สามารถทำได้ ทำให้เกิดรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหารถติด คืนรอยยิ้มให้กับคนกรุงเทพฯ

“วินาทีนี้ปัญหาน้ำท่วมสำคัญที่สุด ชี้ชะตาคนกรุงเทพฯ แล้วครับ ดังนั้นการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเลือกผู้ว่าฯ แต่เป็นการเลือกอนาคตกรุงเทพฯ อนาคตลูกหลานคนกรุงเทพฯ และคนไทย” สุชัชวีร์ กล่าวและขอโอกาสคนกรุงเทพฯ ให้เลือกตัวเอง  พร้อมประกาศผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหา สนับสนุนโรงเรียนสาธิต 50 เขต ให้เด็ก กทม. ได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา โดยใช้ประสบการณ์ที่ทำ Home School ให้กับลูกของตัวเอง และจะเสนอ กทม. เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ปี ค.ศ. 2036

หากได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่า กทม. ตั้งใจอยากเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่ากลับมาเที่ยวซ้ำๆ เช่น ญี่ปุ่น เป็นเมืองแห่งเทศกาล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บางกอง ซิตี้ ออฟ จอย” และเผย อยากจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โอลิมปิก 2036 เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯให้เป็นเมืองเศรษฐกิจและความปลอดภัยในเมืองให้ได้

นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมารวมงานแถลงข่าวเปิด ดร.สุชัชวีร์ เป็นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า “ไม่ว่าพรรค จะขึ้นจะลงอย่างไรนั้น เรายังคงยืดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ต้องขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับ ที่ได้คนรุ่นใหม่มาร่วมพรรค”

ก่อนหน้านี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การประชุมในวันนี้ที่ประชุม กก.บห.พรรค มีมติเห็นชอบให้ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และให้ความเห็นชอบผู้ที่จะลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง 50 เขต 50 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นอดีต สก. 13 คน และเป็นคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่ ที่ก้าวเข้ามาร่วมงานกับพรรค 37 คน รวม 50 คน

สำหรับ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์นั้น จบปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม จากสถาบัน MIT สหรัฐอเมริกา เป็นอดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นนายกสภาวิศวกรสมัยที่ 7 เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านระบบรถไฟฟ้าในคณะกรรมการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าระดับประเทศ เป็นประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยในอดีต เป็นประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ เคยได้รับรางวัลเกียรติคุณระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัล President Eisenhower Fellowships 2012 เป็นประธานการประชุมงานอุโมงค์โลก 2012 (World Tunnel Congress 2012) นอกจากนั้นเป็นวิศวกรดีเด่นแห่งอาเซียน ปี 2012

“พรรคประชาธิปัตย์ภูมิใจที่ได้ต้อนรับเลือดใหม่คุณภาพ อย่าง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรค นับจากนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับชาวกรุงเทพ และเราหวังว่า ดร.เอ้ จะนำชัยชนะมาสู่พรรค นำชัยชนะมาสู่พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกคน ถ้าได้รับเลือกตั้งหรือได้รับโอกาสผมมั่นใจว่า ดร.สุชัชวีร์ และทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเปลี่ยนกรุงเทพเราทำได้อย่างแน่นอน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นอกจากนั้นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบจำนวนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทั่วประเทศ 98,574 ราย ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกตลอดชีพ 13,303 ราย โดยล่าสุดที่ประชุมเห็นชอบรับรอง ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์เป็นสมาชิกพรรคตลอดชีพด้วย

และที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดตั้งสาขาพรรคเพิ่มเติม 2 สาขา คือ จังหวัดนครนายก เขต 1 และสาขาพรรคจังหวัดสงขลา เขต 2