“ผู้พันปุ่น” เบอร์ 11 ระบุปัญหาปากท้องสำคัญที่สุด ต้องเร่งแก้ไข ประกาศผลักดัน”กองทุนคนตัวเล็ก”ให้สำเร็จ

น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่า กทม.หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย พร้อม นางสาวปวริศา คุณาวรนนท์ ผู้สมัครส.ก.หมายเลข3 เขตคันนายาว พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ ตลาดสายเนตร แขวงคันนายาว เขตคันนายาว พบปะพ่อค้าแม่ขาย พี่น้องประชาชนที่มาเดินจับจ่ายภายในตลาด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พ่อค้าแม่ขายหลายคนฝากความระลึกถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โดยระบุว่า เป็นบุคคลที่ดูแลพื้นที่ ไม่ทอดทิ้งประชาชนในยามทุกข์ยาก ขออวยพรให้พรรคประสบความสำเร็จ “ไม่ต้องห่วงเชียร์อยู่แล้ว”

ขณะที่พี่น้องประชาชน บางส่วนได้พูดคุยทักทายอย่างเป็นกันเอง เพราะมีความคุ้นเคยกับทีมไทยสร้างไทยในเขตนี้ โดยเฉพาะ นายแมน เจริญวัลย์ โดยได้ให้ความเมตตา กับพรรคไทยสร้างไทย และประกาศว่าจะสนับสนุน ทีมผู้ว่าไทยสร้างไทย หมายเลข 11 ในการเลือกตั้งที่จะถึงในวันที่ 22 พฤษภาคม

ด้านน.ต.ศิธา ได้สอบถามถึงปัญหาการค้าขาย  โดยเฉพาะหลังการระบาดของโควิด-19 พบว่าสภาพการค้ายังค่อนข้างเงียบ ยอดขายตกลง ประกอบกับต้นทุนสินค้าหลายประเภทปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภค เลือกจับจ่ายเฉพาะสิ่งของจำเป็นมากขึ้น กลุ่มผู้ค้าจึงประเมินว่าอาจต้องใช้เวลาอีกระยะ สภาพการค้าจึงจะฟื้นกลับมา โดยเฉพาะผู้ค้ารายเล็ก ที่หวังว่าจะได้รับการดูแลจากภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องทุนสำรองในการต่อยอดค้าขาย

สำหรับปัญหาดังกล่าว น.ต.ศิธา ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทย และทีมนโยบาย กทม.ของพรรคได้เตรียม กองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก  หรือ “กองทุนตนตัวเล็ก” ซึ่งตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อมอบ “เครดิตแก่ประชาชน” ที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน ในการทำมาหากิน จนต้องไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบ และกองทุนนี้จะเป็น “เครดิต” ที่มอบให้ติดตัว สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ1 ต่อเดือน ด้วยกระบวนการสินเชื่อที่แตกต่าง จากสถาบันการเงินทั่วไป จะช่วยสร้างพลังและปลดปล่อยคนไทย หลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงิน ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้

และเงินในส่วนนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้คนกรุงเทพฯสามารถลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด แข็งแรงที่สุดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ตนพร้อมจะอำนวยความสะดวกในการทำมาหากิน ให้กับคนกรุงเทพฯทุกอย่าง โดยเริ่มจากคนตัวเล็ก ซึ่งกำลังประสบวิกฤตปัญหาปากท้องอย่างหนัก