ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ระบุ สถานการณ์ลุ่มน้ำป่าสัก-เจ้าพระยา ล่าสุดลดลงอย่างต่อเนื่อง

นายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในวันนี้ (10 ต.ค.64) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 861 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 91 ของความจุอ่างฯ ซึ่งกรมชลประทานได้บริหารการจราจรน้ำ ด้วยการปรับลดการระบายน้ำลงสู่ด้านท้ายอ่างฯ จากอัตรา 650 ลูกบาศก์เมตร เหลือ 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก่อนจะรับน้ำส่วนหนึ่งเข้าคลองระพีพัฒน์และควบคุมน้ำไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ในอัตรา จาก 790 ลูกบาศก์เมตร ลดลงเหลือ 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักบริเวณด้านท้ายเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอำเภอท่าเรือ ลดลง มากกว่า 50 เซนติเมตร

ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบนลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้น้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาลดลงตามไปด้วย โดยที่สถานีวัดน้ำท่า C.13 จังหวัดชัยนาท ได้ลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจาก 2,577 เหลือ 2,545 ลูกบาศก์เมตรวินาที แนวโน้มทรงตัวและลดลง ส่วนแม่น้ำน้อยบริเวณ อำเภอผักไห่ เสนา และบางบาล ระดับน้ำลดลง 2 เซนติเมตร นอกจากนี้ ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณพระตำหนักสิริยาลัยและวัดไชยวัฒนารามระดับน้ำทรงตัว  แต่บริเวณอำเภอบางไทร ที่เป็นจุดวัดน้ำก่อนไหลผ่านลงสู่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,960 ลูกบาศก์เมตรวินาที  ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 40 เซนติเมตรไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลงแล้ว แต่ในระยะนี้จนถึงกลางเดือนตุลาคมบริเวณภาคกลางยังมีโอกาสฝนตก จึงขอให้พี่น้องประชาชนติดตามพายุไลออนร๊อก ในช่วง วันที่ 10-11 ตุลาคมนี้ไว้ด้วย