นายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EEC

นายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EEC

นายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EEC

นายกรัฐมนตรีเดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ลดพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยว สั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานแก่เศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EEC

วันที่ 8 กันยายน 2563 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรีถึงแนวทางการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจว่า วันนี้รัฐบาลมุ่งเน้นปรับปรุงสร้างเศรษฐกิจใหม่ จากเดิมที่ต้องพึ่งพาการส่งออก การท่องเที่ยว แต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลง อาจต้องจัดทำโครงการขนาดใหญ่เพื่อส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพิ่มเติมจากแผนงาน EEC ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเชื่อมการขนส่งระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตก ท่าเรือต่าง ๆ ระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ด้วยการศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานแก่เศรษฐกิจระยะยาว

พล.อ.ประยุทธ์  บอกด้วยว่า รัฐบาลได้ทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนงานโครงการต่าง ๆ ตามพ.ร.ก. เงินกู้ฯ พร้อมปรับปรุงกฎหมายให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พบปะภาคเอกชน 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ และกลุ่มธุรกิจค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ เพื่อรับทราบข้อคิดเห็นและดูว่ารัฐบาลจะสนับสนุนส่วนไหนได้บ้าง เป็นการทำงานร่วมกัน โดยจุดมุ่งหมายสำคัญคือ ลดการเลิกจ้างงานพนักงานให้มากที่สุด โดยรัฐบาลจะจัดหางบประมาณเพิ่มเติมเพื่อดูแลลูกจ้าง พนักงาน ในห่วงโซ่ผู้ประกอบการรายใหญ่

 

สำหรับแผนการพัฒนาแลนด์บริดจ์ของกระทรวงคมนาคมนั้นมีแผนพัฒนาโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมโยงขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ระยะทาง 142 กม. วงเงิน 2.6หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ช่วงหาดใหญ่-ปากบารา และหาดใหญ่-ท่าเรือสงขลาแห่งที่ 2 (อ.จะนะ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (SEA : Strategic Environmental Assessment) ทั้งระบบท่าเรือชายฝั่งและสะพานเศรษฐกิจ (แลนด์บริดจ์) ครอบคลุม 6 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช กระบี่ สงขลา และสตูล ควบคู่ไปกับแผนการพัฒนาแลนบริดจ์ภาคใต้ตอนบนโครงการรถไฟสายใหม่ ช่วง อ.ดอนสัก- จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 77 กม. วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท และโครงการก่อสร้างรถไฟ ช่วง จ.สุราษฎร์ธานี-อ.ท่านุ่น จ.พังงา ระยะทาง 156 กม. วงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท

นายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EECนายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EECนายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EEC

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร สมัยดำรงตำแหน่งรมช.คมนาคม ได้ระบุไว้ว่า ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในแผนการพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นพื้นที่เชื่อโยงการขนส่งสินค้า 2 ฝังมหาสมุทรและเป็นความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ-หนองคาย เพื่อเชื่อมการค้าตามเส้นทางจีน – สปป.ลาว – ไทย ไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์ ดังนั้นการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจชาติ เพื่อรองรับการเติบโตของภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากพบว่าสัดส่วนจีดีพี ของประเทศราว 20 % นั้นมาจากสามจังหวัดในเขตอีอีซี โดยเฉพาะ จ.ระยองที่ครองสัดส่วนจีดีพีถึงร้อยละ 8 ทั้งที่มีประชากรแค่ร้อยละ 1ของทั้งประเทศ หรือราว 6 แสนล้านบาท ดังนั้นไทยควรมีแนวทางการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคอื่น ๆ ที่เชื่อต่อประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับการค้าอาเซียนด้วย

 

นายไพรินทร์ กล่าวต่อว่า พื้นที่แนวระเบียงเศรษฐกิจที่เหมาะสมนั้น กระทรวงคมนาคมว่าควรเป็นแนวทางระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้(SEC) และแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ เอ็นอีซี โดยเฉพาะที่ภาคใต้ตนมองว่าควรจะส่งเสริมพัฒนาเส้นทางขนส่ง 2 ฝั่งทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์สามารถช่วงชิงตลาดโลจิสติกส์ทางน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีปริมาณเรือสินค้า 4-5 เหมือนลำต่อวันบริเวณเส้นทางเดินเรือช่องแคบมะละกาเชื่อมต่อไปยังมาเลเซีย-สิงคโปร์

 

ปัจจุบันน่าเสียดายที่โครงการดังกล่าวถูกชะลอไปจากปัญหาต่าง ๆ จึงเสี่ยงที่ประเทศไทยจะเสียโอกาสเนื่องจากประเทศมาเลเซีย และจีนได้จับมือกันเพื่อพัฒนาเส้นทางแลนด์บริดจ์ในฝั่งมาเลเซียโดยมีกำหนดการแล้วเสร็จภายใน 3 ปี ซึ่งเส้นทางดังกล่าวถือว่าเป็นเส้นทางที่สั่นกว่า

  1. นายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EECนายกรัฐมนตรีสั่งศึกษา Land Bridge เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจระยะยาว เพิ่มจากแผนงาน EEC

ทั้งนี้แผนการพัฒนาแลนด์บริดจ์ของกระทรวงคมนาคมนั้นมีแผนพัฒนาโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมโยงขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ระยะทาง 142 กม.วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ช่วงหาดใหญ่-ปากบารา และหาดใหญ่-ท่าเรือสงขลาแห่งที่ 2 (อ.จะนะ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้(SEA  Strategic Environmental Assessment )ทั้งระบบท่าเรือชายฝั่งและสะพานเศรษฐกิจ ครอบคลุม 6 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช กระบี่ สงขลา และสตูล ควบคู่ๆไปกับแลนบริดจ์ภาคใต้ตอนบนโครงการรถไฟสายใหม่ ช่วง อ.ดอนสัก-จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 77 กม. วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท และโครงการก่อสร้างรถไฟช่วง จ.สุราษฎร์ธานี-อ.ท่านุ่น จ.พังงา ระยะทาง 156 กม.วงเงิน 3.6 หมื่นล้านบาท

 

ใหม่ อิทธิพันธ์ บัวทอง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย อดีตบรรณาธิการบริหารข่าวช่อง 8 RS mall หมายเลข 27 , อดีตบรรณาธิการบริหารสถานีโทรทัศน์ true4U ดิจิตอลทีวี, กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย อดีตผู้อำนวยการข่าว PostTV, อดีตบรรณาธิการข่าว TPBS อดีตรองผู้อำนวยฝ่ายข่าว TNN24 อดีตบรรณาธิการข่าวการเมืองสถานีข่าว TNN24 และASTV  อดีตบรรณาธิการข่าวหนังสือพิมพ์วัฏจักร